“ภูมิธรรม” ไม่กังวล 1,000% หลัง “ธีรยุทธ” ยื่นศาลรธน.ฟ้องทักษิณ-เพื่อไทย ชี้ปม “พิศาล” คดีตากใบ รอความชัดเจน ต้องพ้นสส.หรือไม่
ข่าวที่น่าสนใจ
เมื่อวันที่ 11 ต.ค.67 ที่กระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นร้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมีพฤติกรรมเป็นผู้ครอบครองครอบงำและสั่งการพรรคเพื่อไทย เพื่ออำนาจการบริหารราชการแผ่นดิน และมีพฤติการณ์ ก่อนบ่อนทำลายการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็น ว่า ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ถือเป็นสิทธิ์ของผู้ร้องเรียนก็ดำเนินการไป ขณะที่ศาลก็พิจารณาและพิพากษา ซึ่งมีเรื่องที่ตัดสินแล้วถูกและยกฟ้องไปก็เยอะ อย่าเพิ่งไปเข้าใจว่ามันจะเป็นอะไร รอให้ผลที่แท้จริงออกมาก่อน ซึ่งกระบวนการยุติธรรมทำงานอยู่แล้ว แต่จะมีคนที่แสดงบทบาทหน้าที่เยอะฟ้องไปเรื่อยเปื่อยก็เยอะ แต่ถ้ากฎหมายเห็นว่ามันถูกต้องก็ว่ากันไป ไม่มีปัญหาอะไร ผิดก็คือผิดถูกก็คือถูกไม่มีทางไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้
เมื่อถามว่าจะเป็นหัวเชื้อนำไปสู่การยุบพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่กังวลเลย 1000% เมื่อถามย้ำว่าได้อ่าน 6 ข้อร้องเรียนแล้วไม่มีเรื่องไหนที่กังวลเลยใช่ไหม นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่หนักใจ ร้องตามกระบวนการก็ร้องไป ห่กศาลรับฟ้อง ก็เรียกพรรคเพื่อไทยไปชี้แจงก็เท่านั้นเอง แต่ตอนนี้ศาลยังไม่รับฟ้อง อย่าเพิ่งคิดไปเร็ว เห็นใจพรรคเพื่อไทยบ้าง
นายภูมิธรรม ยังได้กล่าวถึง กรณีข้อพิพาท พื้นที่ทับซ้อน เกาะกูด กับกัมพูชา ที่ถูกหยิบยกเป็นข้อร้องเรียนเรื่องของการครอบงำ โดยนายทักษิณ ชินวัตร ด้วยว่า เรื่องนี้ได้ยินมาเสมอ ก็อยู่ที่ความเป็นจริง เรื่องของพื้นที่ทับซ้อน พูดกันมายาวนาน และยังไม่มีจุดจบบทสรุป ขอให้เป็นเรื่องจริงขึ้นมา แล้วค่อยคุยกันเรื่องบทสรุป ที่ชัดเจนอีกทีจะดีกว่า ตนไม่ชอบเรื่องการคาดเดา เพราะ การคาดเดาจะร้ายที่สุดก็ได้ ทั้งที่ความเป็นจริงอาจจะไม่มีเลย มันเสียสุขภาพใจ ขอให้นำความจริงที่ปรากฏชัดเจนแล้วมาดูว่า มาตรฐานจัดการเรื่องนี้อยู่ตรงไหน และพรรคเพื่อไทย พร้อมตอบทุกคำถาม ความเป็นจริงให้เห็นปรากฏ และเป็นคำถามที่นอกเหนือกระบวนการยุติธรรม
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยมีแผนรองรับกรณีต้องเปลี่ยนตัวนายกฯ หรือไม่ นายภูมิธรรม ร้องอุ่ย ท่านมาได้แค่เดือนเดียวจะให้เปลี่ยนตัวแล้ว โหดร้ายไปหรือไม่ เมื่อถามว่าภายหลังจากที่นาย อนุทินชาญ วีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพานายเนวิน ชิดชอบ เข้าพบนายทักษิณทำให้มีกระแสข่าวว่าจะเปลี่ยนตัวนายกฯ อยากให้ยืนยันเรื่องนี้ได้หรือไม่ นานภูมิธรรม ระบุว่า ขออย่าคาดเดา เรามีหน้าที่ทำความจริงให้ปรากฎ การคาดเดาที่เลยเถิดเกินไปจะสร้างปัญหา นายกฯ ทำงานได้เพียงเดือนเดียว ซึ่งนายกฯ และรัฐบาบก็ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีใครคิดที่จะไปยกเลิก เปลี่ยนแปลงตัวนายกฯ จะไปเอานายกฯ มาตรา 7 หรือ มาตรา5 มันไม่มีหรอก วันนี้อยากให้มาช่วยกันให้กำลังใจหน่วยราชการ รัฐบาลที่ทำงานแก้วิกฤตประเทศให้ได้ดีกว่า ส่วนนายอนุทินและนายเนวิน จะไปคุยอะไรกับนานทักษิณนั้น ก็ต้องไปถามนานเนวินกับนานอนุทิน เพราะตนก็ไม่รู้ว่าเขากันจริงหีือไม่ และคุยกันที่ไหน แม้นายอนุทินจะออกมาบอกแบบนั้นแบบนี้ตนก็ไม่รู้อะไร
เมื่อถามว่าได้ให้กำลังใจนายกฯ หรือไม่ที่โดนดรามาหลายประเด็น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ต้องให้กำลังใจ ท่านนายกฯ แข็งแรงและเข้มแข็งอยู่แล้ว เมื่อถามว่าเห็นอย่างไรที่นายกฯ ขยับตัวก็เป็นดรามา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็นี่ไง สังคมมันก็เป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นพวกท่านอย่าไปให้ค่าคนที่คนอะไรเกินเลย อยากให้ใช้ดุลยพินิจและช่วยกันหน่อย ซึ่งสื่อจะช่วยได้มาก จะทำให้คนที่ทำงานจริงๆ ไม่หมดกำลังใจ
เมื่อถามว่าใน 6 ข้อที่ถูกร้องไม่มีข้อไหนที่ล่อแหลมจนทำให้พรรคเพื่อไทยต้องหานายกฯ สำรองใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มี เพราะเราทำทุกอย่างด้วยความรอบคอบและเป็นไปตามกฎหมาย ส่วนเรื่องบางครั้งก็ไม่ได้เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย เช่น เรื่องการไปทานข้าวกับคุณทักษิณก็เป็นเรื่องของคนที่ไปคุยกัน คุณเนวินไปกินข้าวกับคุณทักษิณ คุณเนวินก็ต้องตอบไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยอะไรทั้งสิ้น
เมื่อถามย้ำว่านายทักษิณครอบงำพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายภูมิธรรม หัวเราะใส่ พร้อมระบุว่า “ ผมไม่ต้องตอบเลย เชื่อว่าท่านรู้ดีอยู่แล้ว” ก่อนจะเสร็จสิ้นการให้สัมภาษณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวะที่กลุ่มทำขึ้นลิฟต์ไปยัง ห้องทำงาน บนศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้สื่อข่าวพยายามแซวในกลุ่มคำว่า “พี่อ้วนน่าจะตอบให้ชัด” นายภูมิธรรม ตอบกลับว่า เท่านี้ยังไม่ชัดอีกหรอ
ทั้งนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการตามตัวพล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 หลังศาลจังหวัดนราธิวาส ออกหมายจับ ในคดีสลายการชุมนุมที่ตาก ควรให้ลาออกหรือไม่ ว่า ตอนนี้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ขณะศาลออกหมายจับแล้ว และรัฐสภา ก็บอกไปแล้วว่า เฉพาะเวลาที่ประชุม จะคุ้มครองตามเอกสิทธิ์ สส.หลังจากนั้นก็ว่าไปตามกฏหมาย และหลังจากแค่เร่งการซักถามตนก็ได้เรียกผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาพูดคุยแล้ว ก็สั่งให้ดำเนินการอย่างเต็มที่ ซึ่งท่านก็ได้สั่งการตำรวจทุกหน่วยทั่วประเทศ ให้ดำเนินการจับกุมมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อย่างบ้านนายพิศาล ก็เข้าไปตรวจค้น ยังไม่พบอะไร ดังนั้น ตอนนี้ทุกอย่างชัดเจนว่าไม่มีใครปล่อยปละละเลย ส่วนผลจะเป็นอย่างไร มันก็ต้องเป็นไปตามสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
เมื่อถามว่ามันมีข้อเสนอว่า เพื่อกั้นพรรคเพื่อไทยออกมาจากประเด็นนี้ ควรที่จะให้ พล.อ.พิศาล ลาออกหรือพรรคเพื่อไทยขับออก นายภูมิธรรม กล่าวว่า ท่านยังไม่ได้ถูกตัดสินว่าเป็นผู้มีความผิด เพราะฉะนั้นในแง่ของพรรค น่าจะทำได้ยาก ส่วนท่านจะตัดสินใจรับผิดชอบหรือไม่รับผิดชอบอย่างไร เป็นดุลพินิจของตัวท่านเอง ส่วนที่บอกว่าพรรคถูกลากเข้าไป ก็พูดเกินเลย ไป ทุกคนก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล และเข้าใจว่า ก็ทำตามกฎระเบียบ ดังนั้น อย่าลากเข้าไปเป็นประเด็นทางการเมือง มีเรื่องเยอะอยู่แล้ว บ้านเมืองกำลังแย่อยู่แล้ว
เมื่อถามว่าเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร บอกว่าท่านพลเอกพิศาล ลาไปพักรักษาตัวอยู่ต่างประเทศและจะกลับมา 30 ตุลาคมนี้ ซึ่งตอนนั้นคดีขาดอายุความไปแล้ว นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องที่พลเอกพิศาล ลา ถ้าสภาฯว่าก็ว่าไปตามสภา
เมื่อถามว่า หากกลับมาในตอนที่ขาดอายุความไปแล้ว พรรคเพื่อไทยจะให้เขาเป็น สส.อยู่ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า รอให้เรื่องเกิดขึ้นก่อน ทุกอย่างให้เป็นไปตามกระบวนการ ก่อนที่นายภูมิธรรม ก่อนจะตัดบท ว่า “มีประเด็นอื่นไหมครับ เพราะว่าประเด็นนี้ก็มีแค่นี้แหละ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น