"กันต์ กันตถาวร" แถลงยืนยันความบริสุทธิ์ เผยเป็นแค่ผู้รับจ้างไม่ใช่ผู้บริหาร รับได้รถหรูจาก "บอสพอล" เป็นของขวัญจริง
ข่าวที่น่าสนใจ
หนึ่งในรายชื่อที่ถูกอ้างว่าเป็นบอสใหญ่อย่าง “กันต์ กันตถาวร” พิธีกรชื่อดัง ก็ได้เจอกระแสสังคมตั้งคำถามถึงความเกี่ยวข้องกับบริษัทธุรกิจตลาดตรง ที่เชิญชวนให้คนลงทุนแบบขั้นบันได้ จนเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง และทางด้านตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐานยื่นขอออกหมายจับภายใน 48 ชั่วโมง ทางเจ้าตัวยังไม่ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวหลังมีข่าวออกมา มีเพียงโพสต์ข้อความขอยุติบทบาทหน้าที่พิธีกรในทุกๆ รายการ จนกว่าจะมีความชัดเจนและกระจ่าง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและความรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคม
ล่าสุดวันนี่ 12 ตุลาคม 2567 กันต์ กันตถาวร ตั้งโต๊ะแถลงโดยเผยว่า “ผมทำงานเป็นผู้รับจ้างให้กับดิไอคอนกรุ๊ปมาแล้ว 3 ปี เริ่มตั้งแต่ ตุลาคม ปี 2564 ประมาณ 3 ปี และที่ถามว่า ทำไมถึงนานขนาดนี้ หน้าที่ของผมคือการ โปรโมตสินค้า ทุกสินค้าของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่งประกอบธุรกิจมาก่อนจะติดต่อมาให้เป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ ในการโปรโมตบริษัท
ขอยืนยันตรงนี้อีกครั้งว่าผมไม่ได้เป็นผู้บริหาร ไม่ได้มีชื่อหรือสิทธิ เป็นเพียงแค่ผู้รับจ้างในบทบาทหน้าที่ของการผลิตสื่อ เพื่อให้ผู้บริโภคและตัวแทนจำหน่ายได้เอาไปใช้ แล้วก็ได้เป็นพิธีกรตามงานอีเว้นท์ของบริษัทตามที่ได้เซ็นสัญญากันเอาไว้ ส่วนเรื่องรถหรูที่เป็นประเด็นก็คือทางด้าน “พอล ดิไอคอนกรุ๊ป” ได้มอบให้เป็นของขวัญวันเกิด ถามว่า สงสัยไหม ถึงมูลค่า กันต์ กล่าวว่า ผมเป็นคนรับ คิดในความรู้สึก ก็อาจเพราะผมทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ผมเชื่อว่ามันถูกต้อง ผมก็ใส่กำลังกายและใจไปเต็มที่ มันเป็นมาตรฐานการทำงานตั้งแต่แรกของผม เกือบ 20 ปี เป็นแบบนี้มาเสมอ”
ส่วนเรื่องการตลาดยืนยันว่าไม่ได้มีลูกน้องอยู่ภายใต้บัญชาของเรา เราแค่ทำตามสคริป สื่อที่ผมเป็นคนผลิตให้กับบริษัทดิไอคอน ก็มีทั้งโพสต์เองผ่านทางเราแล้วก็โพสต์ทางบริษัทที่เป็นไปตามข้อตกลงสัญญาว่าจ้าง
“การที่ตัวคุณกันออกมาแถลงและพร้อมเข้ากระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย หลังจากที่มีกระแสข่าวว่าจะถูกจับภายใน 48 ชั่วโมงและยึดทรัพย์ ทางเราออกมาเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เชื่อว่าตอนนี้น่าจะยังไม่เกิดหมายจับเกิดขึ้น เพราะว่าทางเราพร้อมให้ความร่วมมือ” ทนายกล่าว
กันต์ กันตถาวร เผยต่อว่า “ผมมาวันนี้ เพื่อให้พวกพี่ๆได้รับทราบโดยทั่วกัน และเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจของผมเอง แล้วผมก็ยังยืนอยู่ในความถูกต้องที่ผมเชื่อมาเสมอ ถ้ากระบวนการยุติธรรมจะว่าอย่างไรก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม เพราะเราก็ยินดีที่จะร่วมมือเต็มที่เพื่อให้เกิดความชัดเจน แต่ความเสียหายที่ได้เกิดขึ้นทางตัวบุคคลหรือว่าความเสียหายทางมูลค่าถ้ามีคนเสียหายก็ควรที่จะได้รับการเยียวยา
ตั้งแต่แรกที่มีประเด็นนี้เกิดขึ้น ได้มีการพูดคุยกับคุณพอล ดิไอคอนกรุ๊ป ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นและการเยียวยาต่างๆ มันคืออะไรทำไมผมไม่เคยรับรู้มาก่อน ผมไม่เคยได้เห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ว่าการที่ผมเป็นพิธีกรในนามของบริษัทก็ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้และสินค้าก็ออกสู่ทางท้องตลาดไปสู่ผู้บริโภค ผมก็เลยถามคุณพอลว่าเราต้องชี้แจงอย่างไร ก็เลยมีการพูดคุยกับคุณพอล ดิไอคอนกรุ๊ปไปบ้างแล้ว แต่คุณพอลเขาก็ยังยืนยันว่าเขาทำถูกต้องตามกฎหมายจริงๆ ซึ่งผมรอให้คุณพอลออกมาชี้แจง แต่มันก็ไม่ได้เกิดขึ้น แถมมันก็ส่งผลกระทบไปแล้ว เพราะว่าความไม่ชัดเจน ผมก็เลยต้องออกมารับผิดชอบต่อตัวเองสังคมต้องสังกัดเวิร์คพอยท์แล้วผู้ร่วมงานทุกคนก่อนเลย ว่าผมก็เลยขอยุติบทบาทในการเป็นพิธีกรของตัวเองก่อน แล้วยุติบทบาทในสาธารณะต่างๆ แล้วก็ยุติบทบาทกับดิไอคอนกรุ๊ปเรียบร้อยแล้ว”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง