13 ตุลาคม 2567 – พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวทั่วทั่วประเทศระดมกวาดล้างอาชญากรรมผิดกฎหมาย เตรียมความพร้อมตอนรับนักท่องเที่ยวในช่วง High Season เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินนักท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยวนั้น
พ.ต.อ.แมน รถทอง ผกก.2 บก.ทท.1 สั่งการให้ พ.ต.ต.กฤตพร แสงสุระ สว.กก.2 บก.ทท.1 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.2 บก.ทท.1 ออกตรวจการปฏิบัติตามแผนระดมกวาดล้างอาชญากรรมการกระทำความผิดในผิดในคดี 10 กลุ่ม ต้องห้าม (เน้นกลุ่มที่ 1-3) ไกค์ชาวต่างชาติผิดกฎหมายและความผิดอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภาพรวม จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย โดยคดีแรกได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 1 ราย คือ น.ส.ญาตา ตาวี อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่ น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนฯ” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านในพื้นที่ ต.ท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี โดยเมื่อวันที่ 23 ก.ย.2566 ผู้เสียหายใช้งาน แอพพลิเคชั่น Facebook พบกับเพจที่ให้เช่าโฮมสเตย์ที่มอนแจ่ม (ขอสงวนชื่อ) ได้โพสต์สาธารณะให้เช่าที่พัก ผู้เสียหายจึงสนใจได้ติดต่อส่งความไปยังช่องสนทนา (Messenger) ส่วนตัวของเพจดังกล่าว เพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับที่พัก จากนั้นได้โอนเงินค่าที่พักไปเป็นเงินจำนวน 7,550 บาท เมื่อโอนเงินไปแล้วเพจดังกล่าว แจ้งว่าให้โอนค่าประกันห้องเพิ่มเติม ผู้เสียหายไม่โอนให้ และไม่สามารถติดต่อกับเพจดังกล่าวได้ จึงเชื่อว่าถูกหลอก และได้แจ้งเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับคนร้ายดังกล่าว
ต่อมาพนักงานงานสอบสวน สภ.รันตนาธิเบศร์ ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ได้ขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา คือ น.ส.ญาตา ตาวี ต่อมางานสืบสวน กก.2 บก.ทท.1 ได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมได้มาพักอาศัยอยู่ที่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่ติดตามจนพบตัวผู้ต้องหา และเข้าจับกุมพร้อมนำตัวตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.รันตนาธิเบศร์ ภ.จว.นนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีต่อมา ได้ออกตรวจสอบบริเวณแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่ จ.ชลบุรี ปรากฎพบบคคลต้องสงสัยนำนักท่องเที่ยวขาวเวียดนามมามมาท่องเที่ยว มีพฤติการณ์เป็นไกด์เถื่อนผิดกฎหมาย ที่บริเวณตลาดน้ำสี่ภาคต่อเนื่องบริเวณพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาผาเขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม นายเหงียน อายุ 31 ปี สัญชาติเวียดนาม โดยกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างต้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวประกอบอาชีพหรือรับจ้างทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต (ทำงานมัคคเทศก์) 2.”ทำหน้าที่เป็นมัคคเทศกโดยไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์จากนายทะเบียนฯ ส่ง สภ.นาจอมเทียน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
และสุดท้ายเป็นการออกตรวจสอบบริเวณแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่ จ.ชลบุรี ปรากฎพบบุคคลต้องสงสัยนำนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามมาท่องเที่ยว มีพฤติการณ์เป็นไกด์เถื่อนผิดกฎหมาย มีการอธิบายให้ความรู้โดยการยืนพูดคุยแนะนำสถานที่และอำนวยความสะดวกแก่กลุ่มนักท่องเที่ยว พาเดินเข้าชมสถานที่ดังกล่าว ที่บริเวณลานจอดรถทัวร์วัดเขาชีจรรรย์ จ.ชลบรี จึงได้แสดงตัวเข้าจับกม นายหงี ก๊วก อายุ 39 ปี สัญชาติเวียดนาม โดยกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวประกอบอาชีพหรือรับจ้างทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต (ทำงานมัคคุเทศก์) “ทำหน้าที่เป็นมัคคเทศาโดยไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นมัคคเทศก์จากนายทะเบียนฯ ได้ดำเนินการควบคุมตัวจัดทำบันทึกจับกุบกุมน้ำตัวส่ง สภ.นาจอมเทียน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป