ประธานาธิบดี เซเลนสกี้ แถลงผ่านคลิปเมื่อค่ำวานนี้ (13 ตุลาคม) ตามเวลาท้องถิ่นว่า รัสเซียกับเกาหลีเหนือ กระชับความเป็นพันธมิตรแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่เพียงการส่งอาวุธสนับสนุนอีกต่อไป แท้จริงยังมีการส่งทหารไปช่วยกองทัพรัสเซียด้วย ด้วยสถานการณ์แวดล้อมเช่นนี้ ความสัมพันธ์ของยูเครนกับพันธมิตร จึงจำเป็นต้องปรับใหม่ให้สอดรับ ในขณะที่แนวหน้าของยูเครนต้องการการสนับสนุนมากขึ้น
เซนเลนสกี้ กล่าวว่า เมื่อพูดถึงการเพิ่มขีดความสามารถการโจมตีระยะไกล และการจัดหากำลังบำรุงอย่างเด็ดขาดกว่าเดิมให้กับทหารยูเครน ไม่ได้หมายถึงแค่ลิสต์อาวุธยุทโธปกรณ์เท่านั้น แต่ยังหมายถึงการเพิ่มแรงกดดันต่อผู้รุกราน และแรงกดดันนั้นจะต้องแข็งแกร่งเกินรัสเซียต้านทาน เพื่อป้องกันสงครามลุกลามใหญ่โตมากไปกว่านี้
สัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ระบุว่า “มีความเป็นไปได้สูง” ที่เกาหลีเหนืออาจส่งทหารจำนวนหนึ่ง เข้าไปช่วยรัสเซียรบกับยูเครน และข่าวที่ว่า มีเจ้าหน้าที่ทหารเกาหลีเหนือเสียชีวิตจากการโจมตีของยูเครนนั้น ก็น่าจะเป็นความจริง แต่โฆษกทำเนียบเครมลิน ดมิทรี เปสคอฟ ออกมาปฏิเสธว่า เป็นแค่เฟ้คนิวส์
ผู้นำยูเครนเพิ่งเสร็จสิ้นการตระเวนเยือนเมืองหลวงยุโรปหลายแห่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รวมถึงกรุงเบอร์ลิน ลอนดอน ปารีส และกรุงโรม เพื่อขอความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มอีก ซึ่งเป็นการเยือนที่ตระเตรียมในนาทีสุดท้าย หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เลื่อนเยือนเยอรมนีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่ออยู่ติดตามรับมือพายุเฮอร์ริเคนมิลตันถล่มรัฐฟลอริดา
เดิม ไบเดน มีกำหนดร่วมประชุมกับพันธมิตรกว่า 50 ประเทศของยูเครน เพื่อหารือเรื่องการสนับสนุนยูเครนเพิ่มเติม ซึ่งเซเลนสกี้หวังเป็นอย่างมาก ว่าจะได้รับ แหล่งข่าวในรัฐบาลเยอรมนี เปิดเผยว่า ไบเดนปรับกำหนดการใหม่ และจะเดินทางเยือนเยอรมนี 1 วัน ในวันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ประกาศว่า สามารถยึดหมู่บ้าน มิคาอิล-ลิฟกา ทางตะวันออกได้อีกแห่งหนึ่ง หมู่บ้านนี้เป็นทางออกสู่เมือง เซลิดอฟ ทางใต้ของเมืองยุทธศาสตร์สำคัญอย่างโปครอฟสค์ ที่ทหารรัสเซียรุกประชิดเข้าไปทุกที