ฮิซบอลเลาะห์ ออกแถลงการณ์ระบุว่า ได้ส่งฝูงโดรนโจมตีค่ายฝึกทหารราบ ที่เมือง “บินยา-มินา” ห่างจากทางใต้ของเมืองไฮฟา ประมาณ 30 กิโลเมตร และไกลจากชายแดนเลบานอนถึง 64 กิโลเมตร เมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม เพื่อตอบโต้ที่อิสราเอลถล่มเลบานอนทางอากาศ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 22 ราย บาดเจ็บ 117 ราย โดยเป้าหมายที่อิสราเอลหมายสังหารนั้น คือ กองพลน้อยโกลานี่ หนึ่งในหน่วยทหารที่ถูกส่งไปประจำการทางใต้ของเลบานอน รอดชีวิต

ล่าสุดกองทัพอิสราเอลแถลงว่า มีทหารเสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 58 ราย ในจำนวนนี้อาการสาหัส 7 ราย บาดเจ็บปานกลาง 9 ราย ที่เหลือบาดเจ็บเล็กน้อย ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลายแห่งทั่วอิสราเอล ความสูญเสียที่เกิดขึ้น ทำให้ครั้งนี้เป็นการโจมตีนองเลือดครั้งใหญ่ที่สุดในอิสราเอล ตั้งแต่เริ่มปะทะกับฮิซบอลเลาะห์ มาตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้ว

รายงานเบื้องต้นคาดว่า ทหารที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ กำลังรับประทานอาหารเย็นอยู่ในโรงอาหาร และถูกโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว แถลงการณ์ของฮิซบอลเลาะห์ ระบุด้วยว่า การโจมตีครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า พวกเขายังสามารถก่อความสูญเสียให้อิสราเอลได้ และทำให้โรงอาหารของทหารอิสราเอล กลายเป็นกับดักมรณะ

ด้านช่อง 12 สื่ออิสราเอล รายงานว่า ฝ่ายตรงข้าม ส่งโดรนเข้าไปโจมตี ภายใต้การกำบังของจรวดที่ยิงใส่ที่ราบสูงโกลัน ใกล้กับชายแดนซีเรีย

ด้าน ไทมส์ ออฟ อิสราเอล รายงานผลสอบสวนเบื้องต้นว่า มีโดรน 2 ลำเข้าสู่น่านฟ้าอิสราเอลจากทางทะเล กองทัพอิสราเอลตรวจพบ และติดตามโดรนทั้ง 2 ลำ ลำหนึ่งถูกยิงตกในทะเลนอกชายฝั่งเมืองท่าไฮฟา เสียงไซเรนดังขึ้น ในภูมิภาคกาลิลีตะวันตก เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์อิสราเอล ติดตามโดรนลำที่สอง แต่โดรนหายไปจากจอเรดาร์ จึงคลาดกัน ซึ่งน่าจะเป็นเพราะโดรนบินต่ำเลียบพื้น และไซเรนไม่ดัง เพราะสันนิษฐานว่าโดรนตก หรือถูกยิงสกัดได้แล้ว ทันทีที่หายไป

สื่ออิสราเอล ระบุชื่อรุ่นโดรน ว่า มีร์ซาด (Mirsad) หรือในอิหร่านเรียกชื่อว่า “อบาบิล-ที” (Ababil-T) ซึ่งเป็นโดรนกามิกาเซ่หลักของฮิซบอลเลาะห์ ข้อมูลจากศูนย์อัลมา สถาบันวิจัยของอิสราเอล ที่ติดตามภัยความมั่นคงทางภาคเหนืออิสราเอล ระบุว่า โดรนรุ่นนี้ มีระยะทำการ 120 กิโลเมตร ทำความเร็วสูงสุด 370 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บรรทุกระเบิดได้ 40 กิโลกรัม และสามารถบินที่ความสูงถึง 3 พันเมตร