เกาหลีเหนือสั่งหน่วยปืนใหญ่ เตรียมพร้อม ยิงถล่มเกาหลีใต้
เกาหลีเหนือสั่งหน่วยปืนใหญ่แนวหน้า เตรียมพร้อมถล่มยิง หากโดรนเกาหลีใต้ที่ใช้แจกใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อบินรุกเข้ามาอีกครั้ง
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของรัฐบาลเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่ากองทัพเกาหลีเหนือสั่งให้หน่วยปืนใหญ่แนวหน้า เตรียมพร้อมยิงถล่มกาหลีใต้ หลังโดรนจากเกาหลีใต้ทิ้งแผ่นพับโฆษณาชวนเชื่อเหนือกรุงเปียงยาง คำสั่งดังกล่าวได้กำหนดให้กองพลปืนใหญ่ 8 กองพลพร้อมอาวุธครบมือ รับมือแบบเกิดสงคราม ด้วยการเตรียมพร้อมเปิดฉากยิง
เคซีเอ็นเอระบุ รัฐบาลเกาหลีเหนือได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า เกาหลีใต้บินโดรนขนแผ่นพับโฆษณาชวนเชื่อโปรยเหนือกรุงเปียงยางถึงสามครั้งในเดือนนี้ รวมถึงสองเที่ยวบินเมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่าเกาหลีเหนือจะตอบโต้การโฆษณาชวนเชื่อก่อนหน้านี้ ด้วยการส่งบอลลูนที่เต็มไปด้วยขยะและอุจจาระไปที่เกาหลีใต้ แต่เหตุการณ์ล่าสุดนี้สมควรได้รับการตอบสนองจากกองทัพ
เชื่อกันว่าเกาหลีเหนือมีปืนใหญ่มากกว่า 1 หมื่นกระบอกฝังอยู่ตามแนวชายแดนทางใต้ โดย 6 พันกระบอกอยู่ในระยะยิงไปสู่ศูนย์กลางหลักที่มีประชากรเกาหลีใต้หนาแน่น ตามรายงานในปี 2020 ของ แรนด์ คอร์ปอเรชั่น (RAND Corporation ) ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยที่ได้รับเงินทุนจากกองทัพสหรัฐ หากเกิดสงครามระหว่างสองเกาหลีขึ้น อาจมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 2 แสน 5 พันคนในกรุงโซล อินชอน กิมโป และเมืองอื่นๆ ในเกาหลีใต้ภายในหนึ่งชั่วโมง
อีกทั้งในแถลงการณ์ที่ KCNA รายงานเมื่อวันอาทิตย์ คิม โย-จอง น้องสาวของคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เตือนว่า เกาหลีเหนือมองว่าการร่อนใบปลิวของเกาหลีใต้ เป็นการยั่วยุทางการเมืองที่ร้ายแรง และเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตย และเตือนว่า หากพบโดรนของเกาหลีใต้บนท้องฟ้าเหนือเมืองหลวงของเราอีกครั้ง มันจะนำไปสู่หายนะที่เลวร้าย
ด้าน คิม ยอง-ฮยอน รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ ปฏิเสธในตอนแรกว่า ไม่ได้ส่งโดรนเข้าไปในน่านฟ้าของเกาหลีเหนืออย่างไรก็ตาม คณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ระบุว่า ไม่สามารถยืนยันได้ว่าข้อกล่าวหาของเกาหลีเหนือเป็นความจริงหรือไม่
การโต้แย้งเรื่องโดรนเกิดขึ้นไม่ถึงหนึ่งเดือน หลังจากที่เกาหลีเหนือประกาศว่าได้ทดสอบขีปนาวุธ ฮวาซอง -11 รุ่นใหม่ที่ติดตั้งหัวรบขนาดใหญ่พิเศษ 4.5 ตัน ซึ่งเกิดขึ้นภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่สหรัฐ และเกาหลีใต้ ได้ร่วมทำการซ้อมรบใหญ่ในคาบสมุทรเกาหลี แม้ว่าสหรัฐและเกาหลีใต้จะอธิบายว่า การซ้อมรบครั้งนี้เป็นแค่มาตรการป้องกัน แต่กระทรวงต่างประเทศของเกาหลีเหนือกลับเรียกการซ้อมรบเหล่านี้ว่า เป็นการยั่วยุให้เกิดสงคราม
#บก.ข่าวทีวี
