สเปน ยึดเคมีผลิตอาวุธ ลักลอบส่งไปรัสเซีย
ตำรวจสเปนตรวจยึดสารเคมีต้องห้าม รวมถึงสารตั้งต้นผลิตอาวุธเคมี 1 หมื่น 3 พันกิโลกรัม หลบคว่ำบาตรส่งให้รัสเซีย
เมื่อวันอังคาร ตำรวจสเปนแถลง การจับกุมผู้ต้องสงสัย 4 รายในเครือข่ายอาชญากรรม และสามารถยึดสารเคมีต้องห้าม รวมถึงสารตั้งต้นผลิตอาวุธเคมีได้ทั้งหมดถึง 13 ตัน หรือ 1 หมื่น 3 พันกิโลกรัม ที่ลักลอบส่งไปให้รัสเซีย หลบมาตรการคว่ำบาตรชาติตะวันตก ผ่านบริษัทบังหน้าที่ตั้งขึ้นโดยชาวรัสเซีย
ตำรวจและกรมศุลกากรระบุในแถลงการณ์ร่วม จากการสอบสวนพบว่า สารเคมี เหล่านี้ซึ่งบางส่วนอาจเป็นสารตั้งต้นสำหรับอาวุธเคมีหรือสารทำลายประสาท ที่หลบหนีมาตรการคว่ำบาตร สารเคมีดังกล่าวถูกพบในตู้คอนเทนเนอร์ ที่ท่าเรือบาร์เซโลนา ขณะที่ผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 คนถูกจับกุมใน 3 หมู่บ้านใกล้เคียง โดยพวกเขาเคยต้องคดีลักลอบขนสินค้าต้องห้ามหลายครั้ง
ตำรวจอธิบายว่า สารเคมีถูกส่งออกโดยใช้บริษัทที่จดทะเบียนในสเปน ซึ่งบริษัทแห่งนี้ได้สร้างเครือข่ายลอจิสติกส์และการเงินที่ซับซ้อน เพื่อส่งออกผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ที่ถูกคว่ำบาตรไปยังรัสเซีย โดยมีบริษัทย่อยอยู่ในกรุงมอสโก ซึ่งเป็นปลายทางรับสารเคมี นอกจากนี้บริษัทยังตั้งบริษัทย่อยในหลายประเทศทั้งในอาร์เมเนีย และคีร์กีซสถาน เพื่อปกปิดปลายทางที่แท้จริงของสินค้า ก่อนจะเปลี่ยนเส้นทางไปยังรัสเซีย
สหภาพยุโรป ซึ่งบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างกว้างขวางมาตั้งแต่ปี 2022ระบุว่า กำลังปราบปรามบริษัทต่างๆ ที่ขายสินค้าที่สามารถนำไปใช้ผลิตอาวุธให้กับรัสเซีย ผ่านประเทศในเอเชียกลางเพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตร
สหรัฐและอังกฤษต่างกล่าวหารัสเซียว่า ละเมิดคำสั่งห้ามใช้อาวุธเคมีในการรบในยูเครน โดยอังกฤษกำหนดมาตรการคว่ำบาตร ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวหลายครั้ง โดยดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลินบอกกับผู้สื่อข่าวเมื่อเดือนพฤษภาคมว่า รัสเซียยังคงปฏิบัติตามพันธกรณีของตนภายใต้สนธิสัญญาห้ามใช้อาวุธเคมี
#บก.ข่าวทีวี
