รอยเตอร์สและ The Times of Israel รายงานว่าอิสราเอลได้ส่งเครื่องบินรบเปิดปฏิบัติโจมตีทางอากาศเหนือพื้นที่ตอนใต้กรุงเบรุต ของเลบานอนเมื่อรุ่งเช้าที่ผ่านมา (พุธที่ 16 ตค.) โดยมีการโจมตีในชุมชน 2 แห่ง ซึ่งการโจมตีครั้งนี้มีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 1 สัปดาห์ และมีขึ้นหลังจากที่แม็ทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐออกมาแสดงความเห็นคัดค้านและแสดงความวิตกต่อขอบเขตการโจมตีเบรุตของอิสราเอล เนื่องจากเป็นพื้นที่ชุมชนมีผู้คนอาศัยเป็นจำนวนมาก และการโจมตีครั้งล่าสุดวันที่ 10 ตุลาคม ทำให้อาคารทั้งหลังพังถล่ม และมีผู้เสียชีวิตมากถึง 22 คน โดยมิลเลอร์
อย่างไรก็ตามอิสราเอลอ้างว่าได้มีการประกาศเตือนให้อพยพล่วงหน้าแล้วเมื่อวานนี้ และอิสราเอลก็มุ่งเป้าโจมตีคลังแสงใต้ดินที่เมืองดาฮิเย่ห์ ซึ่งอยู่ชานกรุงเบรุต
อย่างไรก็ตาม เวลาที่อิสราเอลเตือนอพยพมักเตือนเพียงพื้นที่เดียว แต่เวลาโจมตีกลับโจมตีในขอบเขตที่กว้างกว่าคำเตือน ทำให้ประชาชนที่ไม่ได้อพยพถูกลูกหลงและบาดเจ็บล้มตาย
และเมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอลได้ต่อสายคุยกับประธานาธิบดีเอ็มนานูเอล มาครงของฝรั่งเศส โดยได้ปฏิเสธไม่ยอมรับเสียงเรียกร้องหยุดยิง โดยย้ำว่าอิสราเอลจะไม่ยอมหยุดยิงเพียงฝ่ายเดียวหลังฮิซบอลเลาะห์เองก็ขู่จะโจมตีอิสราเอล นอกจากนี้ก็ประกาศยกเลิกแผนการประชุมหารือของมาครงที่เลบานอน ขณะที่สำนักงานนายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้ออกแถลงการณ์เตือนมาครงในทำนองว่าอิสราเอลไม่จำเป็นต้องฟังยูเอ็นเพราะยูเอ็นไม่ได้มีส่วนในการจัดตั้งรัฐอิสราเอล แต่รัฐอิสราเอลเกิดขึ้นมาได้จากชัยชนะในสงครามประกาศเอกราชโดยกองทัพอิสราเอล