“สส.พรรคส้ม” หน้าชา “ภูมิธรรม” อบรมชุดใหญ่ “อย่าเอาแต่ใจตัวเอง” ปมสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์
“ภูมิธรรม” ตอบกระทู้ “สส.เชตะวัน” พรรคปชน. ปมเปลี่ยนสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ไปใช้ประโยชน์อื่น บอกรอผลศึกษา กมธ.ก่อนเคาะ อบรมชุดใหญ่อย่าเอาแต่ใจตัวเอง ต้องดูให้รอบด้าน เหตุเป็นที่ดินพิเศษ เย้ยไว้ได้บริหารประเทศจะเข้าใจมากขึ้น
ข่าวที่น่าสนใจ
17 ตุลาคม 2567 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ตอบกระทู้ถามทั่วไปของนายเชตวัน เตือประโคน สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน ต่อปัญหาการใช้ที่ดินไม่เกิดประโยชน์ คุ้มค่า กรณีสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ของกองทัพอากาศว่า ในเรื่องดังกล่าวคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่นหรือย้ายไปสถานที่อื่นที่เหมาะสม สภาฯ ที่มีนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ เป็นประธานกรรมาธิการได้คุยกันอยู่ ซึ่งในกรรมาธิการมีนายพลที่เกี่ยวข้อง 3 คน กำลังพูดคุยว่ามีส่วนใดบ้างที่ใช้ประโยชน์ได้
ทั้งนี้ท่านต้องเข้าใจความเป็นจริง หากต้องย้ายก็ต้องคำนึงถึงจิตใจของผู้ที่อยู่อาศัย การบริการราชการแผ่นดินมันไม่ได้มีเรื่องใดเรื่องหนึ่งจัดการได้ทันที มันต้องมีเรื่องพิจารณาอีก ขณะเดียวกันการสร้างสวนสาธารณะยังมีอีกหลายที่ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบินพาณิชย์ ไม่เกี่ยวกับระบบป้องกันภัยที่จะดูแลเมืองหลวง หรือเป็นที่ดูแลด้านความมั่นคงให้บุคคลระดับวีวีไอพี และวีไอพี ถ้าในหัวใจไม่มีสิ่งเหล่านี้ มันพูดได้เรื่อยว่าจะให้ทำอย่างนู้นอย่างนี้ อย่างไรก็ดีรัฐบาลยินดีแก้ไข แต่ขอให้เสนอด้วยเหตุด้วยผล ด้วยความเป็นจริง ไม่ใช่คนใดคนหนึ่งพูดแล้วทำได้เลย เช่น หากผลการศึกษาของกรรมาธิการวิสามัญที่ชัดเจน ไม่มีผลกระทบจริง จะปรับเปลี่ยนได้ ดังนั้นโปรดเข้าใจเหตุผล อย่าคิดอะไรด้านเดียว หรืออย่าคิดอะไรเหมือนคนที่อยากเอาแต่ใจตัวเอง
นายภูมิธรรม กล่าวด้วยว่า ตนตั้งใจมาหารือกัน แต่สมาชิกใช้สุ่มเสียงที่จะทะเลาะกัน หรือโกรธกันมาไม่รู้กี่ 10 ปี สิ่งที่ท่านพูดเป็นการหยิบเฉพาะส่วนมาอธิบายภาพทั้งหมด พยายามหยิบตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งมั่นไม่สามารถตอบโจทย์ของภาพใหญ่ได้ อยากให้ท่านรอบคอบมองทุกมิติ จะได้ไม่ต้องอารมณ์ก้าวร้าว และที่ท่านพูดถึงนายทหารผู้หนึ่ง แล้วบอกว่าถ้าเป็นอย่างนี้รัฐบาลก็ทำได้เลยนั้น ท่านยังไม่เคยบริหารราชการแผ่นดิน เสียงคนเสียงเดียวไม่สามารถไปทำได้ หากเหตุผลไม่มี มันต้องมีการเรียกร้องเป็นที่ประจักษ์
รัฐบาลก็ยังต้องไปศึกษา ไม่ใช่พูดจากอารมณ์อย่างเดียวว่ามีคนหนึ่งพูดแล้วรัฐบาลก็ต้องทำ ถ้าเป็นอย่างนี้บริหารประเทศไม่ได้ ไว้รอท่านบริหารประเทศจะได้เข้าใจตรงนี้มากขึ้น ทั้งนี้ย้ำว่ารัฐบาลพร้อมรับการตรวจสอบ ถ้ามีเหตุผล เมื่อเราชี้แจงแล้วก็ลองเอาไปคิด ไปศึกษาดู อย่าเชื่อมั่นความคิดตัวเองอย่างเดียว แล้วขึ้นมาก็แสดงอาการโกรธหรือไม่พอใจ เราคุยกันด้วยเหตุและผลได้ เราไม่มีปัญหาหากกรรมาธิการศึกษาแล้วระบุว่าผลกระทบไม่มีจริงๆ เราก็พร้อมจะปรับเปลี่ยนได้ แต่ไม่ใช่ใครคนหนึ่งพูดมาเอาเป็นเอาตายในการเปลี่ยนแปลง รัฐบาลทำไม่ได้ คนบริหารประเทศทำสิ่งนี้ไม่ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
