“ทนายนิด้า” เผยเอาผิด “พระ ว.” คดีแชร์ลูกโซ่-ผู้สนับสนุน ไม่ได้ ต้องพิสูจน์เจตนา

"ทนายนิด้า" เผยเอาผิด “พระ ว.” คดีแชร์ลูกโซ่-ผู้สนับสนุน ไม่ได้ ต้องพิสูจน์เจตนา

Top news รายงาน วันที่ 19 ต.ค.2567 น.ส.ศรันยา หวังสุขเจริญ หรือ ทนายนิด้า ได้ออกมา โพสต์เฟซบุ๊กระบุขอความว่า ในส่วนของพระวอ จะเอาผิดในฐานะตัวการแชร์ลูกโซ่หรือผู้สนับสนุนในแชร์ลูกโซ่ ต้องพิสูจน์เจตนาพระวอ ให้ได้ว่าในขณะพระพูดนั้นพระทราบว่า the icon คือแชร์ลูกโซ่ หากพูดไปโดยไม่ทราบว่า the icon คือแชร์ลูกโซ่ ต่อให้มีลักษณะเชิญชวนมาเป็นครอบครัว the icon ก็ไม่อาจผิดได้เพราะขาดเจตนา ซึ่งการกระทำความผิดอาญานั้นจะขาดเจตนาไปไม่ได้เลย เว้นแต่กฎหมายจะระบุไว้เป็นอย่างอื่น

ข่าวที่น่าสนใจ

การที่พระวอ จะบอกว่าในขณะที่พูด ไม่มีเจตนาเพราะไม่รู้ว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ ก็ค่อนข้างมีน้ำหนักว่าไม่ทราบได้ เพราะขนาดคนมีสี ข้าราชการทหาร ตำรวจ หรือแม้แต่ครอบครัวนักกฎหมายเองบางคนควรรู้ยิ่งกว่ายังไม่รู้เลยว่ามีลักษณะลูกโซ่จริงและไปเป็นเครือข่ายอยู่ และความก็เพิ่งมาแตกว่าเข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่ เพราะเมื่อไม่นานมานี้มันมีคนมาให้ข้อเท็จจริงกันไปในทิศทางเดียวกันเป็นจำนวนมากออกสู่สาธารณะนี่เอง
ส่วนตัวไม่มองอะไรแบบไม่เป็นธรรม โดยจะไม่เอาความชอบหรือไม่ชอบมาบอกว่ากรณีใดเข้าข่ายผิดกฎหมายใดหรือไม่ผิด และไม่ยัดเยียดข้อเท็จจริงเกินไปกว่าความเป็นจริง แต่พิจารณาตามเหตุและผล และตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ
กรณีดังกล่าวพระวอเทียบได้กับพรีเซนเตอร์ที่ไม่ใช่ระดับบอสนะ
ในส่วนของบอสดารา ที่อ้างว่าเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วยและเป็นบอสด้วย จะมีหน้าที่ในการโปรโมทด้วย ชักชวนคน สนับสนุน the icon ต่อประชาชน เพื่อเพิ่มจำนวนสมาชิกโดยมีวัตถุประสงค์คือผลประโยชน์จากส่วนแบ่งกำไรจากจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้น จึงมีภาระหน้าที่ความรับผิดชอบที่ยิ่งยวดขึ้นไปในการตรวจสอบความถูกต้องแท้จริงเกี่ยวกับระบบภายในของ the icon ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ มีลักษณะฉ้อโกงหลอกลวงหรือไม่ กลยุทธ์ของบริษัทคืออะไร
ส่วนพรีเซนเตอร์สินค้า จะมีหน้าที่แค่โฆษณาตัวผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จัก ดังนั้นเพียงการตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ปลอดภัย ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็พอจะมองว่าสุจริตได้แล้ว ไม่ถึงขนาดว่าต้องรู้ว่ากลยุทธของบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์เป็นยังไง เพราะก็ไม่มีหน้าที่ชักชวนสมาชิกมาลงทุนและก็ไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรจากค่าตัวที่แน่นอนการจะเอาผิดพรีเซ็นเตอร์ที่ถือผลิตภัณฑ์ของ the icon แล้วกล่าวหาว่าเป็นตัวการร่วมในขบวนการแชร์ลูกโซ่หรือผู้สนับสนุนจึงเห็นว่าไกลไป
กลับมาในส่วนของพระวอ การรับเงินบริจาค 1,000,000฿ ก็ยังไม่มีข้อเท็จจริงว่าเป็นส่วนแบ่งรายได้จากการที่พระวอ ชักชวนสมาชิก ข้อความที่ปรากฏไม่ว่าจะรวยเร็วก็ the icon แล่ว ส่วนการอวยยศ the icon หรือการกล่าวหาว่าคนไม่เปิดใจ ไม่ปรับมายด์เซ็ท ไม่ลงคอร์สอบรมคือดักดาน ก็ยังไม่ชัดแจ้งว่าเป็นคำชักชวน ยังไม่ถือเป็นการชักชวนโดยตรง แม้จะมีคำไม่เหมาะสม หรือไม่ใช่กิจของสงฆ์ก็เป็นคนละเรื่องกันกับคดีอาญา
ดังนั้นจึงเห็นว่าพระวอและดาราที่เป็นพรีเซ็นเตอร์เฉยๆ ยังไม่เข้าข่ายที่จะเป็นตัวการร่วมหรือผู้สนับสนุนแชร์ลูกโซ่ของ the icon นั่นเอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สส.สัตหีบ จัดโครงการกฏหมายเพื่อผู้สูงอายุกับทนายไอซ์ และ ดร.เอ
ภาคเอกชนท่องเที่ยวตราดและททท.ตราด ชี้ เป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวตราด หลัง “เกาะช้าง” ติดอันดับ 2 ที่พักผ่อนเขตร้อนที่ดีที่สุดในโลก
ส.ส.ชลบุรี ติ “งานวิ่งควายชลบุรี” ใช้งบกว่า 5 ล้าน แต่ตัดรุ่นการประกวด จาก 4 รุ่น เหลือ 3 รุ่น ในทุกประเภท เจ้าของควายต้องควักเงินกว่า 2แสนจ่ายเองเพื่อเพิ่มรุ่นให้กับมาแบบเดิม
“สมศักดิ์” ชื่นชมข้าราชการ สธ. ทำงานหนัก หลังตรวจเยี่ยมพื้นที่ 5 จังหวัดภาคเหนือ ยันพร้อมสนองนโยบาย "นายกฯ-รัฐบาล" ได้ทุกมิติ
"เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย" ทำหนังสือแจ้ง "ว.วชิรเมธี" รอกลับไทยมาชี้แจง ปมเทศน์ที่บริษัทดิไอคอน
"อานนท์" คอตก นอนคุกต่อ ศาลฎีกา ยกคำร้อง ไม่ให้ประกันคดี 112 ปราศรัยเรียกร้องปฏิรูปสถาบัน
"สรรเพชญ" แนะรัฐบาลใช้ผลดี "ธปท." ลดดอกเบี้ย นำกระตุ้นศก.ให้ได้ผลจริงจัง
สวยงาม ภาพสามมิติ "หมูเด้ง" โผล่คาบดอกบัวถวาย "หลวงพ่อรวย" หวังดึงคนรุ่นใหม่เข้าวัด
เช็กด่วน "แอร์" ยี่ห้อดัง 2 รุ่น ราชกิจจานุเบกษา ยกเลิกประกาศห้ามขายแล้ว
“หมอวรงค์” ตอกกลับ “ภูมิธรรม” คนผิดไม่ยอมรับผิด ทำประเทศป่วน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น