จ.ตราด/หลังสื่อภาคเอกชนอย่าง Spotlight รายงานว่า Travel + Leisure สื่อสิ่งพิมพ์ด้านการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ ได้เผยแพร่รายชื่อ 30 สถานที่พักผ่อนเขตร้อนที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งรวมถึง 3 เกาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ เกาะช้าง (ประเทศไทย), พาลาวัน (ฟิลิปปินส์), และบาหลี (อินโดนีเซีย) การจัดอันดับครั้งนี้เน้นย้ำถึงศักยภาพทางธรรมชาติและการท่องเที่ยวของภูมิภาค โดยคาดว่าจะส่งผลเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในระยะยาว นั้น
นายสัคศิษฎ์ มุ่งการ ที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว(อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจ.ตราด)ให้ความเห็นว่า นับเป็นข่าวเชิงบวกที่มีผลดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดตราด โดยเฉพาะเกาะช้าง ซึ่งที่ผ่านมาเกาะช้างก็ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับ 1 ในการเป็นสถานที่แต่งานมาแล้ว ซึ่งการจัดอีกครั้งในครั้งนี้ได้รับการจัดอันดับเป็นเกาะที่มีนักท่องเที่ยวมีจุดหมายที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของเกาะทีทอยู่ในเขตร้อนยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นรองเพียงมัลดีฟส์เท่านั้น จึงเป็นเรื่องที่น่าจะส่งผลดีกับเกาะช้างมากๆ เพราะภาคเอกชนทีทจัดอันดับครั้งนี้ เป็นที่ยอมรับของนักท่องเที่ยวในตลาดยุโรป ซึ่งเกาะช้างเป็นตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศทีทตรงกัน นั้นหมายความว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะมาเที่ยวที่เกาะช้างในอนาคต
“ต้องยอมรับว่า เกาะช้างของเรามีศักยภาพในเรื่องความเป็นธรรมชาติมาก ซึ่งการที่เป็นอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้างที่สามารถรักษาธรรมชาติของความเป็นเกาะไว้ได้ดี ผู้ที่มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้างก็มีความเข็มแข็งในการดูแลรักษาธรรมชาติไว้ทั้งป่าไม้ และทรัพยากรทางทะเลยังมีความสวยงาม มันจึงเป็นเสน่ห์และมูลเหตุจูงใจให้เกาะช้างได้รับการจัดอันดับครั้งนี้“
ด้านร.ต.กรกฎ โอภาส ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด กล่าวว่า การจัดอันดับของเกาะช้างครั้งนี้ แม้จะเป็นเอเจนที่ทำธุรกิจในด้านการท่องเที่ยวซึ่งมีสำนักงานอยู่ในแถบยุโรปทำให้มีความเชื่อถือระดับหนึ่ง ซึ่งการประเมินผลก็มาจากนักท่องเที่ยวที่เขาได้มีการสำรวจและมีความเห็นที่ชัดเจน ซึ่งยอมรับว่า มีผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวเช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมาเกาะชเาบก็ได้รับการจัดอันดับในเรื่องเป็นสถานที่ที่คู่รักเลือกมาแต่งงานมากเป็นอันดับ 1 อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกที่เป็นแรงดึงดูดใจให้เดินทางมาเกาะช้าง นอกจากนี้ การท่องเที่ยวของจังหวัดตราดและเกาะช้างเริ่มเติบโตเพิ่มมากขึ้น จากความพยายามของภาคเอกชนทางการท่องเที่ยวของจังหวัดตราดที่มีผลักดันกิจกรรมต่างๆรวมทั้งการทำให้เกาะช้างและจังหวัดตราดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหรือเวลเนสเดสสิเนชั่น (Wellness Destination)
