ที่มีการตรากฎกระทรวง ให้การนำตัวจำเลยออกนอกเรือนจำต้องขออนุญาตอธิบดีกรมราชทัณฑ์นั้น เป็นเรื่องภายในของกรมราชทัณฑ์ และ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็ยังมีหน้าที่ต้องขออนุญาตศาลก่อนเหมือนเดิม จะสั่งอนุญาตเองไม่ได้เพราะขัดต่อมาตรา 6 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

และแม้มีการขออนุญาต ศาลจะมีอำนาจอนุญาตได้ เฉพาะ 4 กรณี คือ
~จำเลย วิกลจริต
~จำเลยอาจ เสียชีวิต ถ้า ถูก จำ คุก ต่อ ไป หรือ
~จำเลย เป็น หญิงตั้งครรภ์ เกิน 3 เดือน หรือ
~จำเลย คลอด บุตร ยัง ไม่ เกิน 3 ปี และ ต้อง เลี้ยง ดู บุตร
ใน 4 กรณี นี้ เมื่อ ศาล อนุญาต แล้ว ศาลจะออก หมาย ปล่อยเพื่อให้กรม ราชทัณฑ์ อนุญาตให้จำเลยออกไปจากเรือนจำได้ และเมื่อหมดเงื่อนไขแล้ว กรมราชทัณฑ์ก็จะต้องรายงานต่อศาล จากนั้นศาลก็จะออกหมายจำคุก ตามจำนวน กำหนดจำคุกที่เหลืออยู่ โดยไม่ถือว่าการออกไปนอกเรือนจำนั้นเป็นเวลาจำคุก “เว้นแต่”ในกรณีที่ศาลให้ออกไปนอกเรือนจำ แล้วศาลกำหนดให้ต้องไปอยู่ในสถานที่ที่ศาลกำหนด หรือที่กำหนดในกฎกระทรวง เช่นสถานที่ซึ่งประกาศเป็นเรือนจำชั่วคราว ในกรณีนี้ให้ถือเวลาที่อยู่ในสถานที่นั้น เป็นเวลาถูกจำคุกด้วย และให้หักออกจาก กำหนดการจำคุกเพราะถือว่าถูกจำคุกด้วย
ปรากฏว่าการนำตัวนายทักษิณ ออกไปอยู่โรงพยาบาลตำรวจนั้นกรมราชทัณฑ์ไม่ได้ขออนุญาตจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก่อนจึงเป็นการ ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นความผิดทางอาญา ผู้ที่เกี่ยวข้องสมรู้ร่วมคิดหรือผู้สนับสนุนย่อมต้องรับผิดทางอาญาด้วย

นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ เป็นสส. หลายสมัยของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนักร้องชั้นครูคนหนึ่ง ส่วนใหญ่จะร้องเรื่องใหญ่ๆ ที่มีความเสียหายหลายแสนล้านบาท เช่นกรณีสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ โทลเวย์เป็นต้น