“ตำรวจ” เร่งไล่ล่า “แก๊งคนร้าย” อุ้มรีดเงิน 2 ชาวจีน คาดฝีมืออดีตภรรยา

ตำรวจ เร่งไล่ล่าแก๊งอุ้ม 2 ชาวจีน ผกก. ระบุ แก๊งอุ้มทำทีติดต่อขอแลกเงินดิจิตอล ก่อนเข้ามาชิงเงิน 3 ล้านบาท พร้อมอุ้ม ฝ่ายผู้เสียหายให้เบาะแสว่า อดีตภรรยาอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง

“ตำรวจ” เร่งไล่ล่า “แก๊งคนร้าย” อุ้มรีดเงิน 2 ชาวจีน คาดฝีมืออดีตภรรยา – Top News รายงาน

แก๊งคนร้าย

 

จากกรณี 2 เสียหายชาวจีน เข้าแจ้งความตำรวจ สน. สุทธิสาร ระบุถูกชายฉกรรจ์ 5 คน พร้อมอาวุธปืนบุกลักพาตัวข่มขู่เรียกเอาเงิน ภายในบ้านเช่าแห่งหนึ่งภายในซอยรัชดา 24 สูญเงินกว่า 4 ล้านบาท ก่อนปล่อยตัว

วันนี้ (21 ต.ค.67) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางทีมงานได้ลงพื้นที่เดินทางไปยัง สน.สุทธิสาร เพื่อติดตามความคืบหน้าในส่วนของคดี โดยพันตำรวจเอก พรเทพ เฉลิมเกียรติ ผกก.สน.สุทธิสาร เปิดเผยถึงการอุ้มนักธุรกิจชาวจีนไปรีดทรัพย์ว่า ผู้เสียหายทำธุรกิจเป็นนายหน้าจัดสรรหาที่พักให้แก่ชาวจีนที่มาเมืองไทย มีการจดทะเบียนบริษัทถูกต้องตามกฎหมาย โดยในวันเกิดเหตุได้รับการติดต่อจากบุคคลหนึ่ง ที่เคยติดต่อขอแลกเงินดิจิตอลกันมาก่อน ที่จะขอแลกเงินดิจิทัลคริปโตเคอเรนซี่ โดยให้เตรียมเงินสดไทยไว้จำนวน 3 ล้านบาท หลังจากนั้นไม่นานมีกลุ่มคนร้าย 5 คนก็เข้ามาภายในออฟฟิศ พร้อมอาวุธครบมือ ทำทีเป็นเข้ามาถามถึงคนชื่อ “ไมเคิล” ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้เสียหาย จากนั้นได้เข้าไปรื้อค้นเงินแล้วพากลุ่มผู้เสียหายรวม 2 คน ที่เป็นชาวจีนแต่พูดไทยได้ ไปยังจังหวัดนครนายกโดยการนำตัวไปมีการแยกผู้เสียหายออกขึ้นรถ 2 คัน พร้อมรีดเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐไปอีก 270,000 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นได้นำตัวผู้เสียหายทั้งสอง ขึ้นรถเพียงคันเดียวมาส่งที่บริเวณย่านบางเขน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ผกก.สน.สุทธิสาร กล่าวว่า โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสน.สุทธิสาร ร่วมกับกก.สส.บก. 2 และตม.ได้ทำการตรวจสอบทะเบียนรถยนต์ของผู้ก่อเหตุพบว่าเป็นการใช้ทะเบียนปลอม และได้ทำการสอบสวนผู้เสียหายเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 03.00 น. วันนี้ ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นชาวพม่าร่วมด้วยหรือไม่ เนื่องจากการสื่อสารพบว่าเป็นคนจีน ส่วนบุคคลที่ชื่อไมเคิลขณะนี้ได้ประสานกับตม.เพื่อตรวจสอบว่าบุคคลที่เข้ามาในราชอาณาจักรถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ แต่ยืนยันว่ามีตัวตน

 

พ.ต.อ.พรเทพ กล่าวว่า โดยคนกลางที่ติดต่อมาขอแลกเงินกับผู้เสียหายมีตัวตน เช้าวันนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบกับทาง ตม.เพื่อไล่เรียงพฤติกรรมการก่อเหตุทั้งหมด ยืนยันว่าผู้ ผู้เสียหายเข้าเมืองไทยมาโดยถูกต้องและทำธุรกิจถูกกฎหมาย โดยจากการสอบสวนเบื้องต้นผู้เสียหายสงสัยว่า น่าจะเชื่อมโยงกับตัวอดีตภรรยาที่ได้เลิกลากันไป โดยมีลูกด้วยกัน ขณะนี้ผู้ต้องสงสัยรายนี้ยังอยู่ในเมืองไทย แต่ในเบื้องต้นยังเป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน ส่วนการติดตามตัวคนร้ายขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ไล่ตรวจสอบเส้นทางการก่อเหตุ และเชื่อว่าขณะนี้ผู้ต้องหายังคงอยู่ในประเทศไทย แต่การติดตามมีความยากลำบากเพราะเนื่องจากผู้ต้องหาได้ทำการแยกย้ายรถออกไปคนละคันและหลบหนี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงให้การดูแลผู้เสียหายทั้งสองคน เนื่องจากทั้งคู่ยังอยู่ในความหวาดกลัวอันตราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“จุลพันธ์” เผย “บอสดิไอคอน” บางราย ไม่ยื่นภาษี 3-5 ปี พร้อมขยายผลปมคลิปเสียงเทวดาถึงที่สุด
"ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" เคลื่อนไหวชี้แจงแล้ว หลังโดนโยง เป็นนักร้องตบทรัพย์ "ดิ ไอคอน"
ปิดฉากชีวิตในคอก 8-9 ปี เคลื่อนย้าย “พลายดอกแก้ว” สำเร็จแล้ว
เดินสายต่อเนื่อง! เมืองไทยประกันภัย ผนึก หอการค้าไทย จัดฟุตบอลคลินิก เยาวชนโคราช
กมธ.ศาสนา จ่อเรียกแจงปม ว.วชิรเมธี เทศน์เชียร์ "ดิ ไอคอน กรุ๊ป" 28 ต.ค.นี้
ไม่พลาด “แอมเนสตี้” เคลื่อนไหว จี้รัฐบาลจับ ผตห.คดีตากใบ ก่อนหมดอายุความ
ห้าดาว x โก๋แก่ ส่ง ‘โก๋แก่ รสไก่ย่างห้าดาว’ ดึงกลยุทธ์ 'The Heritage Fusion' ผสานตำนานความอร่อยแบบใหม่
ผกก.พัทยา เปิดรับแจ้งความคดี The Icon Group ตลอด 24 ชั่วโมง สั่งกำชับอำนวยความสะดวก ย้ำชัดห้ามปฏิเสธการรับแจ้ง ล่าสุดมีผู้เสียหาย ตกเป็นเหยื่อรวม 21 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 4.5 ล้านบาท
รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จัดกิจกรรมวันพยาบาลแห่งชาติ ปี 2567 มอบรางวัล คนดี ศรีดอกปีบ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและแบบอย่างที่ดี ให้กับบุคลากรในโรงพยาบาล
“วีริศ” เร่งบูรณาการแก้ปัญหาขยะ-จราจร รอบสถานีขนส่งหมอชิต 2 เผย ถนนกำแพงเพชรช่วง 1- 4 ส่งมอบให้กรุงเทพมหานครดูแลตั้งแต่ปี 42 ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างเตรียมส่งมอบเช่นกัน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น