ผบ.ตร.เร่งสอบปม “ดิ ไอคอน” ซื้อคริปโทฯ 8 พันล้าน พร้อมเผยบุกค้นบ้านคนใกล้ชิด “กลุ่มบอส” รวม 11 จุด

ผบ.ตร.เร่งตรวจสอบ ปม "ดิไอคอน" โอนเงินซื้อคริปโทฯ 8 พันล้านบาท ลั่นคนปูดข่าวเท็จ ถ้าไม่จริงต้องโดนคดี - ผบ.ตร. เผยคืบหน้าทางคดีดิไอคอน มีผู้เสียหายแจ้งความรวมกันทั่วประเทศ 6 พันราย มูลค่าเสียหายรวมกัน 2 พันล้านต้นๆ ขณะที่เช้านี้ตำรวจมีการบุกค้นบ้านของพนักงานและบุคคลใกล้ชิดของกลุ่มบอสผู้ต้องหา รวมทั้งหมด 11 จุด เน้นหาหลักฐานเชื่อมโยงเอาผิด ก่อนรวมหลักฐานออกหมายจับล็อต 2

ผบ.ตร.เร่งสอบปม “ดิ ไอคอน” ซื้อคริปโทฯ 8 พันล้าน พร้อมเผยบุกค้นบ้านคนใกล้ชิด “กลุ่มบอส” รวม 11 จุด – Top News รายงาน

 

ผบ.ตร.

 

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการดำเนินคดี ดิไอคอนกรุ๊ป ในเรื่องการอายัดทรัพย์สิน ว่า ล่าสุดทางตำรวจสามารถอายัดและยึดทรัพย์ทั้งหมดกว่า 400 ล้าน กำลังดูอยู่ ส่วน ปปง.ก็ดำเนินการได้หลายร้อยล้าน ตอนนี้อยู่ที่การดูเส้นทางการเงิน

เมื่อถามถึงข้อมูลว่ามีการโอนเงิน USDT มูลค่ากว่า 8 พันล้านบาท เพื่อซื้อคริปโท ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้ตรวจสอบโดย บก.ปปป. ขอแจ้งว่าผู้จัดรายการต่างๆ หวังดีต่อสังคมไทย แต่อะไรก็ตามต้องตรวจสอบก่อนว่าเท็จจริงแค่ไหน ไม่เช่นนั้นสังคมจะไขว้เขว ประชาชนจะสงสัยว่าเป็นอย่างนั้นเลยเหรอ ทำไมตำรวจปล่อยให้ถ่ายโอนทรัพย์สิน ข้อมูลคือถ้าใครพูดไม่จริง เอาข้อมูลเผยแพร่ ต้องการเวทีสื่อสาธารณะต้องรับผิดชอบในข้อมูลอันเป็นเท็จที่เผยแพร่สื่อมวลชนด้วย

เราสอบผู้ให้ข้อมูลแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบต่อการให้ข้อมูลสื่อสาธารณะ ถ้าเป็นเท็จก็ต้องถูกดำเนินคดี เลยอยากฝากผู้จัดรายการ หรือผู้หวังดีต่อสังคม อินฟลูเอนเซอร์ ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเสียก่อนที่จะแสดงหรือเผยแพร่ต่อสาธารณชน ทำให้ไขว้เขวว่าปล่อยปละละเลย ให้ถ่ายโอนทรัพย์สินในโลกคริปโท ตรวจสอบแล้ว ให้เจ้าหน้าที่เดินหน้าปรากฎข้อเท็จจริงเร็วๆนี้ ถ้าเอาข้อมูลเท็จ ต้องการเวทีต่อสาธารณชน ต้องถูกดำเนินคดี

เราสอบปากคำแล้ว ข้อเท็จจริงจะปรากฎเร็วๆนี้ เชื่อว่าเร็วๆนี้จะให้ข้อเท็จจริงกับสื่อด้วย อะไรจริงจะบอก อะไรเท็จก็จะบอกด้วย ไม่มีอะไรปกปิด

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ต่อมาเวลา  พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยคืบหน้าคดีดิไอคอนกรุ๊ปว่า เช้านี้ตนมาตามความคืบหน้าทางคดี และมาเยี่ยมผู้เสียหาย ว่ามีมาแจ้งความเพิ่มเท่าใด ขณะนี้เปิดศูนย์รับแจ้งความ บก.ปคบ. ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.67 ที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีการเปิดรับแจ้งความทั่วประเทศ ตอนนี้มี ผู้เสียหายมาแจ้งความรวมกันทั่วประเทศแบ่งเป็นแจ้งความที่ ศูนย์รับแจ้งความ บก.ปคบ. จำนวน 3 พันราย และสถานีตำรวจในพื้นที่ตามต่างจังหวัดอีก 3 พันราย รวมมีผู้เสียหายแจ้งความแล้วทั่วประเทศ ประมาณ 6 พันราย มูลค่าความเสียหายรวมกัน 2 พันล้านต้น ๆ ส่วนการยึดทรัพย์ในส่วนของตำรวจดำเนินการยึดอสังหาริมทรัพย์และรถยนต์หรูของผู้ต้องหา มูลค่ารวมกันประมาณ 4 ร้อยล้านบาท จากนี้จะเดินหน้าตรวจสอบทรัพย์อย่างต่อเนื่อง

จากการที่ตนมาติดตามความคืบหน้าในเช้านี้ สังเกตเห็นผู้เสียหายมาแจ้งความที่ บก.ปคบ.น้อยลง ตนเน้นย้ำกับพนักงานสอบสวนว่า ให้สอบบุคคลที่แสดงตัวเป็นผู้เสียหาย โดยต้องมีหลักฐานการโอนเงินชัดเจน ซึ่งต้องระวังบุคคลที่กระทำความผิดแล้วมาแสดงตัวเป็นผู้เสียหายด้วย

ส่วนคืบหน้าขณะนี้ กลุ่มบอสผู้ต้องหา 18 คน อยู่ในการควบคุมตัวในเรือนจำ ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผล เส้นทางการเงิน และบัญชีการเงินต่อเนื่อง ทั้งนี้ วันนี้มีการตรวจค้นบ้านของพนักงานบริษัท และบุคคลใกล้ชิดกับกลุ่มบอสผู้ต้องหา 18 คน รวมประมาณ 11 จุด เพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงการกระทำความผิดไปสู่การขอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาในล็อตที่ 2 ยืนยันไม่ละเว้นบุคคลใดทุกกรณี

ส่วนเรื่องคลิปเสียงจะให้ บก.ปปป. ตรวจสอบ ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลทางหลักฐานอยู่ว่าเกี่ยวข้องกับผู้ใด แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายชื่อในขณะนี้ บอกเพียงได้ว่า มีการสอบปากคำผู้ต้องหาเพียงพอแล้วยืนยันว่า หากพบว่าเป็นบุคคลใดและมีหลักฐานชัดเจนที่เป็นการกระทำความผิดต่อเจ้าพนักงานของรัฐหรือแผ่นดิน เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่มีการละเว้นแม้แต่รายเดียว จะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด

แต่ถ้าหากมีบุคคลใดมาแสดงตัวเรื่องกระทำผิดก็สามารถแสดงตัวและยืนยันความบริสุทธิ์ได้ อย่างไรก็ตาม หากบุคคลที่อยู่ในคลิปเสียงเกี่ยวข้องกับตำรวจหรือมีตำรวจคอยช่วยเหลือก็จะดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการละเว้นเช่นกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

MEA ชูพลังงานสะอาด เปิดสถานีชาร์จ EV ณ MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ ขับเคลื่อนอนาคตการเดินทางไร้มลพิษ
สถาบันฯ สร้างสรรค์ และซอฟต์พาวเวอร์ ผลักดัน “จังหวัดจันทบุรี” เป็น “Soft Power” ระดับประเทศ
นพ.สสจ.เมืองคอนเตือน ระมัดระวังโรคฉี่หนู เมืองคอนสังเวยชีวิตแล้ว 8 ราย ชี้อำเภอฉวางสุ่มเสี่ยงมากที่สุด เสียชีวิตถึง 7 ราย -เตือนประชาชนประชาชนรักษาสุขภาพและเฝ้าระวังโรคที่จะมากับหน้าฝนนอกจากฉี่หนูแล้วให้ระมัดระวังให้โรคไข้เลือดออก
"เงินดิจิทัล เฟส 2 ได้วันไหน" ชัดเจนแล้ว พร้อมเช็ก เงื่อนไขเงิน 10,000 ล่าสุด
CPF สานต่อความมุ่งมั่นสร้างงานมีคุณค่าสำหรับคนพิการ หนุนวัฒนธรรมเคารพความแตกต่างและหลากหลาย
หมอวรงค์ นำกลุ่มคนรักชาติ ยื่นกว่าแสนรายชื่อ ร้องรบ.ยกเลิก MOU 44
กุ้ง อาหารทะเลยอดฮิต โปรตีนคุณภาพดี อร่อยด้วย ช่วยชาติได้
หมอถึงขั้นเข้าไปถามคนไข้ หลังพยาบาล เจาะเลือดไม่เข้า อึ้งห้อยพระเต็มคอ แต่ละองค์ราคาไม่ธรรมดา
“บิ๊กโจ๊ก” ด่าแรง “ทนายตั้ม” แอบอ้างชื่อ ลวง “เจ๊อ้อย” ไปเขื่อนเชี่ยวหลาน
“เจ๊อ้อย”โคตรแค้น “ทนายตั้ม” พาลูกเมียทัวร์ยุโรปถลุงเป็นล้าน แว้งกัด-คิดเอาชีวิต

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น