“จิราพร” ขอประชาชน มั่นใจกระบวนการตรวจสอบ “ดิ ไอคอน” เตรียมมาตรการป้องกันระยะยาว
ข่าวที่น่าสนใจ
23 ต.ค.2567 น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน ในการตรวจสอบกรณีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ว่า ปัญหานี้สะสมมาหลายปี แต่เพิ่งมาประทุในช่วงนี้ ทำให้ประชาชนตั้งคำถามในการทำงานของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ใน 2 ส่วน คือ ในปี 2561 เคยมีการร้องเรียนมายังสคบ. และเมื่อตรวจสอบย้อนกลับไปพบว่า สคบ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการส่งหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม สคบ.มีข้อจำกัดทางกฎหมาย ในการตรวจสอบ จึงถือเป็นปัญหาอย่างหนึ่ง และจะดูที่สคบ.อย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูในมิติการทำงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร่วมกันแก้ปัญหา รวมถึงการป้องกันในระยะยาว
ส่วนอีกมิติ คือ การเรียกความเชื่อมั่น เรื่องคลิปเสียง ที่ปรากฎในสื่ออยากให้ประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาล ตนเอง และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่รับผิดชอบเรื่องนี้อยู่ มีความมุ่งมั่นในการตรวจสอบข้อเท็จจริง จึงมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบที่เป็นบุคคลภายนอกขึ้นมา มีทั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ทั้งนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และสำนักงานอัยการ เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งแต่ละหน่วยงานมีความเชี่ยวชาญในการสืบสวนสอบสวน และมีประสบการณ์ในการทำคดีใหญ่หลายคดี ดังนั้น ตนคิดว่าในเรื่องของการตรวจสอบไม่มีอะไรที่ต้องลำบากใจ หรือกังวลในการทำงานที่จะให้เรื่องนี้คลี่คลาย
ส่วนแนวทางป้องกันในระยะยาวนั้น นางสาวจิราพร ระบุว่า คณะกรรมการชุดนี้ จะหามาตรการและวิธีการในเชิงนโยบาย โดยให้สคบ.รับไปดำเนินการต่อ รวมถึงอาจจะต้องมีการปรับระบบการทำงาน เพื่อให้องค์กรโปร่งใสและตรวจสอบได้ ส่วนคนที่ตั้งใจทำงาน เป็นข้าราชการก็มีเยอะ ส่วนกลุ่มที่มีปัญหาก็ต้องแก้ไข เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชน
ขณะที่ความคืบหน้าในการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ นั้น หลังจากที่จัดตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 2 ชุด เพื่อดูเรื่องการสอบสวนข้อเท็จจริง นำพยานหลักฐานต่าง ๆ มาเชื่อมโยงกัน และรายงานต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ในที่ประชุมครั้งแรก เพื่อกำหนดว่าจะเชิญหน่วยงานใดเข้ามาให้ข้อมูลบ้าง และอีกคณะจะดูในส่วนของข้อกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับ สคบ. เมื่อทำงานครบหนึ่งอาทิตย์ก็จะรายงานต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ ซึ่งขณะนี้ใกล้ครบกำหนดแล้ว
ส่วนเรื่องการเพิกถอนในอนุญาตประกอบกิจการ ได้สั่งการให้สคบ. ทำงานเร็วที่สุด ซึ่งตอนที่เชิญบริษัทดิไอคอนเข้ามาให้ข้อมูลนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาจับกุม หลังจากนี้ทางสคบ.จึงต้องทำงานร่วมมือกับตำรวจ เพื่อสอบสวนข้อมูลนำมาประกอบในการพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต
ส่วนกรณีที่ทนายของ นายวรัตน์พล วรัทน์วรกุล หรือ บอสพอล ออกมาระบุว่าหากมีการพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต โดยที่กระบวนการตรวจสอบยังไม่แล้วเสร็จ จะฟ้องตามมาตรา 157 กับเจ้าหน้าที่สคบ.ทุกระดับ นั้น นางสาวจิราพร ระบุว่า ทุกอย่างต้องดำเนินการตามกฎหมาย ยืนยันว่าต้องประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อหาข้อเท็จจริง โดยจะทำให้เร็วที่สุด ซึ่งอาจจะยังไม่ได้เพิกถอนในสัปดาห์นี้ เนื่องจากยังมีกระบวนการทางกฎหมายที่ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ พร้อมยืนยันว่า ไม่มีธงในการกลั่นแกล้งใคร แต่ต้องการทำตามข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น