CNA รายงานว่าชาร์ลส์ คุปชาน ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันวิจัยด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่สหรัฐ ออกมาแสดงความเห็นกรณีที่หลายประเทศให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มบริกส์ และการที่บริกส์ขยายตัวรับพันธมิตรใหม่เพิ่มขึ้นอีก 13 ประเทศ รวมทั้ง 4 ชาติอาเซียน ประกอบด้วยไทย, มาเลเซีย, อินโดนีเซียและเวียดนาม ระหว่างการประชุมสุดยอดครั้งที่ 16 ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซียสัปดาห์นี้ (22-24 ตค) เป็นการส่งสัญญานว่าระเบียบโลกใหม่กำลังเริ่มขึ้น
คุปชานชี้ว่าหลายประเทศที่สมัครเข้าร่วมกลุ่มบริกส์ ไม่ได้ฝักใฝ่เฉพาะขั้วรัสเซีย-จีนเท่านั้น แต่ยังเป็นพันธมิตรและสมาชิกของขั้วโลกประชาธิปไตยของสหรัฐและชาติตะวันตกด้วย ซึ่งชี้ให้เห็นว่าโลกกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางแบบนี้ ไม่ใช่แบ่งเป็นโลกสองขั้วเหมือนในศตวรรษที่ 20 อีกต่อไป เนื่องจากประเทศเหล่านี้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศกำลังพัฒนาหรือ Global South ต้องการส่งสัญญานว่าพวกเขาต้องการระเบียบโลกที่ยุติธรรมมากขึ้น มีสิทธิ์มีเสียงมากขึ้นและได้รับส่วนแบ่งหรือผลประโยชน์ที่เท่าเทียมและมากขึ้น โดยมีจีนและรัสเซียเป็นหัวหอกสำคัญ อย่างไรก็ตามคุปชานมองว่าขณะนี้ดูเหมือนว่าความหวังเหล่านี้ยังเป็นแค่คำพูดมากกว่าความเป็นจริง เนื่องจากบริกส์เป็นองค์กรเกิดใหม่ ซึ่งจะต้องดูกันต่อไปยาวๆ
คุปชานกล่าวด้วยว่าการรวมตัวของสมาชิกบริกส์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศเกษตรกรรมซึ่งผลิตข้าวและธัญพืชเป็นสำคัญ ต้องการที่จะเห็นราคาข้าวและผลิตผลด้านการเกษตรที่ลดลง โดยประเทศเหล่านี้ได้รับผลกระทบหนักจากสงครามยูเครนที่ทำให้ระบบห่วงโซอุปทานต้องสะดุดลง การเข้าร่วมบริกส์ของกลุ่มประเทศเหล่านี้จึงน่าจะเน้นไปที่ความร่วมมือด้านการเกษตรและเศรษฐกิจเป็นหลัก รวมทั้งโครงการพัฒนาด้านการผลิตและแลกเปลี่ยนสินค้าเกษตร ไม่เกี่ยวกับประเด็นภูมิรัฐศาสตร์หรือความขัดแย้งของโลกแต่อย่างใด เนื่องจากที่ประชุมบริกส์ต่างออกมาแสดงจุดยืนว่าต้องการให้สงครามยูเครนยุติลง และไม่มีใครที่ประกาศสนับสนุนรัสเซียในเรื่องดังกล่าว