“หมอเหรียญฯ” ซัดตรงสปสช.ค้างหนี้กว่า 20 ล้าน แจ้งเงื่อนไขต้องเร่งแก้ปัญหา ขีดเส้นตาย 1 พ.ย. หยุดให้บริการผู้ป่วยบัตรทองประเภทส่งต่อ

"หมอเหรียญฯ" ซัดตรงสปสช.ค้างหนี้กว่า 20 ล้าน แจ้งเงื่อนไขต้องเร่งแก้ปัญหา ขีดเส้นตาย 1 พ.ย. หยุดให้บริการผู้ป่วยบัตรทองประเภทส่งต่อ

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 67 พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า เรียนผู้ป่วยสิทธิบัตรทองจากคลินิกปฐมภูมิส่งต่อ รพ.มงกุฎวัฒนะ เนื่องจาก สปสช ไม่จ่ายหนี้ค้างชำระค่าแพทย์จำนวนมากกว่า 20 ล้านบาท ตามที่ สปสช. ได้ตกลงกับ รพ.มงกุฎวัฒนะซึ่งเป็น รพ.ทุติยภูมิรับส่งต่อให้แก่คลินิกปฐมภูมิของ สปสช จำนวนมาก โดยสัญญาว่าจะหักจ่ายจากคลินิกปฐมภูมิที่ส่งตัวผู้ป่วยบัตรทองมารับการรักษากับ รพ.มงกุฎวัฒนะ ตามโมเดล OP-Refer และ OP-Anywhere ที่ สปสช. ประกาศใช้เมื่อ 1 มี.ค.67

ทั้งนี้ สปสช. นำทีมโดย พญ.ลลิตยา รองเลขาธิการ สปสช. เป็นหัวหน้าคณะ , ทพญ. น้ำเพชร ผอ.สปสช.เขต 13 และคณะ สปสช.เขต 13 ได้เดินทางมาขอความร่วมมือจาก รพ.มงกุฎวัฒนะ โดยตกปากรับคำว่าจะไม่เบี้ยวหนี้ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ ก.ย.63 อีก แต่ สปสช. ได้เบี้ยวหนี้ด้วยการออกประกาศหลักเกณฑ์ไม่จ่ายค่าแพทย์ในกรณี OP-Refer และ OP-Anywhere ในเดือน ก.ค.67 โดยให้มีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.67 ทำให้หนี้ค่าแพทย์จำนวนมากกว่า 20 ล้านบาทที่ รพ.ต้องจ้างแพทย์เฉพาะทางกลายเป็นหนี้สูญตราบจนปัจจุบัน

ยังไม่นับรวมกับการลดอัตราจ่ายตามรายการ Fee schedule ที่เป็นราคากลางที่ สปสช.จะต้องหักจ่ายจากคลินิกทำให้ รพ.มงกุฎวัฒนะประสบปัญหาขาดทุนจำนวนมาก

นอกจากนี้คลินิกปฐมภูมิของ สปสช จำนวนมากก็ ‘เหนียวหนี้’ ปฏิเสธการจ่ายค่ารักษาพยาบาลอีกมากกว่า 30 ล้านบาท โดยเหนียวหนี้นานกว่า 7 เดือน ทำให้ รพ.มงกุฎวัฒนะขาดสภาพคล่องทางการเงินจนไม่สามารถจ่ายยาให้แก่ผู้ป่วยบัตรทองที่ส่งตัวมาจากคลินิกปฐมภูมิของ สปสช

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ รพ.มงกุฎวัฒนะได้พยายามแก้ปัญหาผู้ป่วยบัตรทองที่ส่งตัวมาจากคลินิกปฐมภูมิของ สปสช ด้วยการจ่ายยาไม่เกิน 7 วันจนในสิ้นเดือน ต.ค.67 นี้ รพ.มงกุฎวัฒนะไม่มีเงินที่จะจัดซื้อยาเพื่อจ่ายยาให้แก่ ผู้ป่วยบัตรทองที่ส่งตัวมาจากคลินิกปฐมภูมิของ สปสช ได้อีกต่อไปแล้ว

อีกทั้ง สปสช ก็ไม่จ่ายค่าแพทย์ให้แก่ รพ.มงกุฎวัฒนะ ตั้งแต่ 1 มี.ค.67 จนถึงปัจจุบันจนมียอดหนี้สูญค่าแพทย์มากกว่า 20 ล้านบาท

ดังนั้นตั้งแต่ 1 พ.ย.67 รพ.มงกุฎวัฒนะจึงไม่มีสภาพคล่องทางการเงินที่จะจัดซื้อยาและจ้างแพทย์เพื่อให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่ส่งตัวมาจากคลินิกปฐมภูมิส่งต่อ รพ.มงกุฎวัฒนะ

รพ.มงกุฎวัฒนะจึงจำเป็นต้องหยุดให้บริการผู้ป่วยบัตรทองที่มาจากคลินิกปฐมภูมิส่งต่อ รพ.มงกุฎวัฒนะ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.67 เป็นต้นไปจนกว่า สปสช.จะเคลียร์หนี้ค่าแพทย์ตามที่ สปสช. ได้ตกลงกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ เมื่อ 1 มี.ค.67 และเคลียร์หนี้ค้างจ่ายที่คลินิกปฐมภูมิส่งตัวผู้ป่วยบัตรทองมารับการรักษากับ รพ.มงกุฎวัฒนะ ตามโมเดล OP-Refer และ OP-Anywhere ที่ สปสช. ประกาศใช้เมื่อ 1 มี.ค.67 ไม่ใช่อัตราที่ สปสช.ประกาศใน ก.ค.67 แล้วมีผลบังคับย้อนหลังอย่างผิดคำมั่นสัญญา

อย่างไรก็ตาม รพ.มงกุฎวัฒนะได้เสนอหนทางแก้ปัญหาดังกล่าวต่อ สปสช.เขต 13 ด้วยการขอให้ สปสช.ขยายเพดานขึ้นทะเบียนรับผู้ป่วยบัตรทองโดยตรงกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ จำนวน 250,000 คน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ป่วยบัตรทองจากคลินิกปฐมภูมิต่างๆ โดยให้มาขึ้นทะเบียนโดยตรงกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เดือดร้อนจากปัญหา ‘เบี้ยวหนี้’ และ ‘เหนียวหนี้’ อีก

ปัญหา ‘เบี้ยวหนี้’ โดย สปสช ได้เกิดขึ้นกับ รพ.มงกุฎวัฒนะจำนวน 13.2 ล้านบาท เมื่อ ก.ย.63 จน รพ.มงกุฎวัฒนะฟ้องต่อศาลปกครอง แต่ศาลปกครองไม่ได้มีความคืบหน้าในการพิจารณามานานถึง 4 ปีแล้ว จนกระทั่ง รพ.มงกุฎวัฒนะต้องประสบปัญหา ‘เบี้ยวหนี้และเหนียวหนี้’ ในปีงบประมาณ 67 อีก ทั้งยังมากมายมหาศาลจนทำให้ รพ.มงกุฎวัฒนะขาดสภาพคล่องทางการเงิน

 

ดังนั้นหาก สปสช มีความจริงใจในการแก้ปัญหาผู้ป่วยบัตรทองจากคลินิกปฐมภูมิส่งต่อ รพ.มงกุฎวัฒนะ สปสช.จะต้องดำเนินการดังต่อไปนี้อย่างเร่งด่วนที่สุด

1. เคลียร์หนี้ค่าแพทย์ตามโมเดล OP-Refer และ OP-Anywhere ที่ สปสช. ได้ตกลงกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ เมื่อ 1 มี.ค.67 ไม่ใช่ออกประกาศอัตราที่ สปสช.ประกาศใน ก.ค.67 แล้วให้มีผลบังคับย้อนหลังอย่างผิดคำมั่นสัญญา

2. เคลียร์หนี้ค้างจ่ายที่คลินิกปฐมภูมิส่งตัวผู้ป่วยบัตรทองมารับการรักษากับ รพ.มงกุฎวัฒนะ ตามโมเดล OP-Refer และ OP-Anywhere ที่ สปสช. ประกาศใช้เมื่อ 1 มี.ค.67 ออกประกาศอัตราที่ สปสช.ประกาศใน ก.ค.67 แล้วให้มีผลบังคับย้อนหลังอย่างผิดคำมั่นสัญญา

3. ขยายเพดานขึ้นทะเบียนรับผู้ป่วยบัตรทองโดยตรงกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ จากปัจจุบัน 50,000 คนเป็น 250,000 – 300,000 คน ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยบัตรทองจากคลินิกปฐมภูมิของ สปสช ต้องเดือดร้อนจากการที่ รพ.มงกุฎวัฒนะขาดทุนและขาดสภาพคล่องทางการเงินจากปัญหา ‘เบี้ยวหนี้’ และ ‘เหนียวหนี้’ จากระบบส่งต่อหรือ OP-Refer อีก

4. หาก สปสช.ไม่รีบดำเนินการในข้อ 3 ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.67 ผู้ป่วยบัตรทองจากคลินิกปฐมภูมิของ สปสช มากกว่า 200,000 คน จะไม่สามารถมารับการตรวจรักษากับ รพ.มงกุฎวัฒนะได้

5. สำหรับผู้ป่วยบัตรทองที่ขึ้นทะเบียนปฐมภูมิโดยตรงกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ ไม่ต้องกังวลใจ ยังคงใช้บริการตามปกติ

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รวบ 27 ชาวบังคลาเทศ ย่องเงียบ เข้าไทย อ้างจะไปมาเลเซีย เสียค่าหัวคนละกว่า 14,000 บาท
สลด ! ปิดเทอม เด็กชาย-หญิง ลงเล่นฝายน้ำล้น จมดับ 2 ราย
"หมอเหรียญฯ" ซัดตรงสปสช.ค้างหนี้กว่า 20 ล้าน แจ้งเงื่อนไขต้องเร่งแก้ปัญหา ขีดเส้นตาย 1 พ.ย. หยุดให้บริการผู้ป่วยบัตรทองประเภทส่งต่อ
“สธ.” เผยเหตุถังบรรจุเคมีระเบิด ดับ 2 ราย คัดแยกอาการคนงานหน้ารง. พร้อมจัดทีมดูแลอนามัยสิ่งแวดล้อม
กต.อัปเดต หลังอิหร่านถูกโจมตี ยังไม่มีคนไทยถูกกระทบ เตือนติดตามใกล้ชิด
"ผบ.ทร." ตรวจขั้นตอนการปฏิบัติ - ความพร้อม เส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
DSI ฝากขัง “นัตตี้ ยูทูปเบอร์ดังหลอกเทรด Forex” พร้อมแม่แล้ว โดนหลายข้อหาหนัก-ค้านการประกันตัว
“บอสพอล” สั่งทนายเตรียมดำเนินคดี 4 กลุ่ม เผยมีแม่ข่ายออกรายการดังด้วย
"ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ" จ่อคาดโทษอัจฉริยะ แอบเข้าไปนั่งฟังการสอบสวน “โค้ชแล็ป”
"อองตวน-ภรรยา" ตั้งโต๊ะแถลง ยันไม่เคยเกี่ยวข้องเว็บพนันฯ เผยถูกมิจฉาชีพแอบอ้างแปะลิ้งค์บนเว็บ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น