ข่าวที่น่าสนใจ
แต่ดูทรงเหนื่อย! เพราะต้องวัดรอยเท้ากับ นักการเมืองรุ่นเดอะ! “เกรียง กัลป์ตินันท์” บิ๊กเนมพรรคเพื่อไทย สายตรง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้นำสูงสุดพรรคเพื่อไทย ที่ขณะนี้ “เกรียง กัลป์ตินันท์” ถอดหัวโขนในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยไปแล้วแต่อำนาจบารมีในบ้านเกิดสูงล้น
สนามเลือกตั้งนายกอบจ.อุบลราชธานี “พรรคเพื่อไทย” ใช้บริการ “กานต์ กัลป์ตินันท์” แชมป์เก่า ชิงลาออกก่อนหมดวาระคาดว่า จะมีการเลือกตั้งช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ สนามนี้ถือว่าเป็นการวัดขุมกำลัง “พรรคเพื่อไทย” ยังแน่นปึ้กแค่ไหน เพราะส่ง “กานต์ กัลป์ตินันท์” แชมป์เก่า น้องชาย “เกรียง กัลป์ตินันท์” ลงรักษาเข็มขัดแชมป์ แม้พี่ชาย “เกรียง กัลป์ตินันท์” จะไร้หัวโขนในตำแหน่งรัฐมนตรี แต่เป็นฝ่ายรัฐบาล “อิทธิพล” และ “กระสุน” ย่อมเป็นต่อคู่แข่งหลายช่วงตัว
ขณะที่ “พรรคส้ม” จะเป็นการท้าพิสูจน์กระแสพายุส้ม ประเมินตัว “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เรตติ้งแผ่วหรือไม่? เพราะส่ง “สิทธิพล เลาหะวนิช” นักธุรกิจดังในจังหวัด อดีตศิษย์เก่า “พรรคเพื่อไทย” เข้าประกวดดับเครื่องชนกับ แชมป์เก่าพรรคเพื่อไทย ทำการบ้านมาหลายเดือน แต่จะฝ่าด่านหินไปได้หรือไม่? และสนามที่ 7 “พรรคส้ม” จะแก้มือได้หรือไม่ หรือ จะแพ้ซ้ำอีก ที่สำคัญจะกู้หน้า “หัวหน้าเท้ง” มาได้หรือไม่ เพราะเคยนำทัพ ศึกเลือกตั้งนายกอบจ.จังหวัดราชบุรี มาแล้วแต่แพ้
แต่สนาม “อุบลราชธานี” สุดหิน และ อย่างชะล่าใจเด็ดขาด ตัวแปรสำคัญ คือ พรรคภูมิใจไทยของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” จะส่งคนลงแข่งนายกอบจ.อุบลราชธานี ด้วยหรือไม่? เพราะการเลือกตั้งใหญ่ปี 2566 จังหวัดอุบลราชธานี ทั้งหมด 11 เขต อันดับ 1 “พรรคเพื่อไทย” ฟาดไป 4 เขต , พรรคภูมิใจไทย ยึดได้ 3 เขต , พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 เขต , พรรคไทยสร้างไทย เจาะได้ 1 เขต เช่นเดียวกับ พรรคประชาธิปัตย์ 1 เขต
ท่ามกลางกระแสพรรคส้มอยู่ในช่วงขาลง เรตติ้ง “หัวหน้าเท้ง” แพ้ลูกน้องในพรรค จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? เป็นเหตุให้นักวิจารณ์การเมืองเจ้าประจำอย่าง “เทพไท เสนพงษ์” ออกมาสอนมวยชุดใหญ่ ชำแหละจุดบอด “พรรคส้ม” ทำไมเรตติ้งตกฮวบฮาบ
1.พรรคประชาชนสร้างภาพทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ แบบโลกสวย ไม่ใช่เป็นฝ่ายค้านแบบบู๊ล้างผลาญ เหมือนกับพรรคฝ่ายค้านในอดีต ที่ประชาชนเคยชิน
2.ความรู้สึกของประชาชนมีความรู้สึกว่า พรรคประชาชนค้านไม่จริง เหมือนกับมีสัญญาใจต่อกัน หวังจะเป็นพันธมิตรทางการเมืองในโอกาสต่อไป ไม่ใช่พรรคฝ่ายค้าน แต่น่าจะเป็นพรรคฝ่ายคอยมากกว่า
3.ภาพจำของประชาชน หลังจากการเลือกตั้ง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ไปพบ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ฮ่องกง น่าจะมีสัญญาใจหรือข้อตกลงอะไรบางอย่าง จนทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นว่า จะทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างจริงจัง
4.บทบาทของพรรคประชาชนในหน้าที่ตรวจสอบ มีหลายประเด็น หลายครั้ง ที่เกี่ยวกับ “ทักษิณ” ปล่อยผ่านไป ไม่ตรวจสอบอย่างจริงจังแบบฝ่ายค้านมืออาชีพ
5.ส.ส. พรรคประชาชนส่วนใหญ่ เป็นส.ส.หน้าใหม่ ประเภทมือใหม่หัดขับ ไม่สันทัดต่อการทำหน้าที่ฝ่ายค้านมืออาชีพ จึงทำให้การตรวจสอบรัฐบาล ในบทบาทฝ่ายค้านไม่ถึงพริกถึงขิงแบบสังคมไทยต้องการ
ในจำนวนนักการเมืองฝ่ายค้าน ที่มีบทบาทโดดเด่น 10 อันดับแรก มีชื่อส.ส.พรรคประชาชน มากถึง 8 คน แต่ไม่มีส.ส.คนใดคะแนนโดดเด่นเลย แม้แต่ “ศิริกัญญา ตันสกุล” ที่ได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่งก็แค่ 15% และไล่เรียงกันมา เป็นคะแนนในลักษณะดาวกระจาย และที่น่าแปลกใจมากก็คือ บทบาทของ “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” หัวหน้าพรรคประชาชน มีตำแหน่งเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กลับได้คะแนนลำดับ 9 มีความนิยมแค่ 4% เป็นปัญหาที่พรรคประชาชนต้องนำไปขบคิด และเป็นการบ้านข้อใหญ่ ที่จะต้องทำให้ “หัวหน้าพรรค” เป็นที่รู้จักของประชาชน และเป็นที่ยอมรับของประชาชนให้สูงขึ้นมากกว่านี้ และเป็นผู้ที่มีบทบาทโดดเด่นในลำดับต้นๆ ของส.ส.ฝ่ายค้าน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
