วันนี้ (31 ตุลาคม 2567) บริเวณหน้าอาคารมาลีนนท์ แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. เจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังกันกว่า 50 นาย เข้ามาดูแลพื้นที่ มีการนำรั้วเหล็กมากั้นพื้นที่ แบ่งแยกเป็น 2 ส่วน คือพื้นที่สำหรับกิจกรรมของพระครูปลัดธีระ และพื้นที่มวลชนของกัน จอมพลัง
ต่อมา พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมตตฺตธมฺโม (เสาวภาคย์โชติรส) หรือพระครูปลัดธีระปีนเสาไฟฟ้า พร้อมมวลชน เดินทางมายังอาคารมาลีนนท์ เพื่อยื่นหนังสือส่งตรงถึงผู้บริหารช่อง อีกทั้งมีการนำดอกไม้เป็นดอกกุหลาบสีแดงมามอบให้แก่สื่อมวลชนที่มาปักหลักรอทำข่าวอยู่บริเวณด้านหน้าอาคารมาลีนนท์อีกด้วย พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้นำดอกกุหลาบสีแดงมามอบให้สื่อมวลชน และ กัน จอมพลัง หลังเมื่อวานนี้ มีตำรวจและเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย นำกองกำลังจำนวนมาก มีรถยนต์กว่า 100 คัน บุกมาที่สำนักปฏิบัติธรรม เพื่อขอตรวจสอบ และให้วัดต้นสังกัดทำหนังสือไล่บี้อาตมา แต่ว่าทำอะไรอาตมาไม่ได้ วันนี้จึงสามารถเดินทางมาอยู่ที่หน้าช่อง 3 ได้ตามที่ตั้งใจไว้
วันนี้ ตั้งใจมายื่นหนังสือให้แก่ผู้บริหารของช่อง 3 เพื่อขอให้เป็นสื่อกลางระดมสมองกลุ่มคนที่มีจิตศรัทธาทั่วประเทศหรือทั่วโลกร่วมกันสร้างศูนย์การเรียนรู้พระพุทธศาสนาที่ถูกต้องด้วยงบประมาณ 20,000 ล้านบาท
พร้อมกลางจดหมาย ที่มีรูปคนดัง อย่าง อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม แพรรี่ ไพรวัลย์ และ หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ รวมถึงพระเกจิ ที่เคยมาออกรายการของช่อง 3 โดยอ้างว่า กลุ่มบุคคลตามที่ปรากฏ และเคยมาออกรายการต่างๆ เป็นการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาหรือไม่ โจมตีพระพุทธรูป บิดเบือนพระธรรม ย่ำยีพระสงฆ์ ทำลายวัฒนธรรมประเพณีไทย ซึ่งอาตมาตกใจมากที่บุคคลเหล่านี้นำเสนอ พร้อมทั้งมีการกล่าวอ้างไปถึงหลวงปู่น้อยที่เคยมาออกรายการ โดยระบุว่าตกใจที่มีการนำเสนอให้พระไปกราบเท้าฆราวาส
ยอมรับว่า ฟิวส์ขาด ตอนที่รายการโหนกระแสพาแขกรับเชิญคนตื่นธรรม มาออกรายการ และมองว่าเป็นการมาทำคอนเทนท์เพื่อขายเสื้อ และมีการโจมตีพระสงฆ์ ตนเองมองว่าควรจะมีทางออกให้กับปัญหานี้ จึงนำโครงการสร้างศูนย์การเรียนรู้พระพุทธศาสนา มานำเสนอ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การออกมาทำกิจกรรมแบบนี้ถือเป็นการทำให้พระพุทธศาสนาแตกแยกหรือไม่ พระรูปดังกล่าวบอกว่า ทุกวันนี้พระพุทธศาสนาก็แตกแยกอยู่แล้ว อยากให้สังคมมองความเป็นจริง / ผู้สื่อข่าวถามว่าหากวันนี้ทางสำนักพุทธเชิญตัว และมีพระเถระมา และอาจจะต้องลาสิขาในวันนี้ กังวลหรือไม่ พระรูปดังกล่าวบอกว่าอยู่กับความจริง ไม่ได้กลัว หวังว่าสื่อมวลชนจะให้ความเป็นธรรมกับอาตมา
อีกทั้งในช่วงท้ายมีการพาดพิงไปถึง แพรรี่ ไพรวัลย์ ว่า เมื่อวานรายการโหนกระแสประสานตนเองให้มาออกรายการแต่สุดท้ายทาง แพร์รี่ หลบหน้า ไม่ยอมมาออกรายการด้วย ตนเองตั้งคำถามว่าจะหลบหน้าทำไม เพราะตั้งใจจะผลักให้ตกเก้าอี้
จากนั้นตัวแทนผู้บริหารของช่อง 3 ได้ลงมารับหนังสือที่ทางพระครูปลัดนำมายื่นร้องเรียน ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่เชิญตัวพระครูรูปดังกล่าวเข้าไปด้านในอาคาร / ซึ่งทางพระรูปดังกล่าวเข้าไปภายในอาคารไม่นาน เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจได้นำตัวออกมาจากอาคาร พร้อมบอกสื่อมวลชนว่าไม่ได้เป็นการจับกุมตัวแต่อย่างใด แต่เป็นการเชิญตัวกลับไปยัง วัดสามชุก ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ตามที่เจ้าอาวาสวัด ส่งหนังสือมายังหลวงพี่น้ำฝน ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่นำตัวพระครูปลัดรูปดังกล่าวเดินขึ้นรถนั้น สั่งมวลชนที่สวมใส่เสื้อสีดำมาให้กำลังใจทั้งด้านกันจอมพลังมีการตะโกนส่งเสียงโห่ตามหลัง
ต่อมา ด้าน พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ในฐานะพระวินยาธิการ หรือตำรวจพระ ในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า สำหรับพระรูปที่มาร้องเรียนนั้น สังกัดอยู่ที่ วัดสามชุก ในพื้นที่ อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเจ้าอาวาสได้มีการทำหนังสือมาถึงหลวงพี่น้ำฝน ซึ่งหลวงพี่น้ำฝนในฐานะผู้ดูแล และทราบข้อมูลมาว่า พระรูปดังกล่าวมีการย้ายสังกัดมาอยู่ที่ วัดสามชุก อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2565 แต่จนถึงปัจจุบันก็ไม่เคยอยู่ในการปกครองของเจ้าอาวาสเลย ซึ่งตามกฏหมายของคณะสงฆ์ พระต้องอยู่ในปกครองของเจ้าอาวาส มากไปกว่านั้น พระรูปดังกล่าวมีการตั้งสำนักสงฆ์ อยู่ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งจากการตรวจสอบแล้ว ไม่มีการขึ้นทะเบียนกับทางสำนักงานพระพุทธศาสนา ไม่ได้มีการขออนุญาตจัดตั้ง ซึ่งความเป็นจริงแล้วต้องขึ้นตรงกับเจ้าคณะตำบล และเจ้าคณะอำเภอเป็นผู้ดูแล ในวันนี้หลวงพี่น้ำฝนมาเพื่อนำหนังสือที่เจ้าอาวาสวัดสามชุก มอบหมาย ให้เรียกพระรูปดังกล่าวกลับไปชี้แจงข้อเท็จจริง
สำหรับการกระทำของพระรูปดังกล่าวนั้น จะต้องมีบทลงโทษหรือผิดพระธรรมวินัยอย่างไรนั้น ทางหลวงพี่น้ำฝน ระบุว่า แล้วแต่ทางคณะปกครองในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ว่าจะดำเนินการอย่างไร พร้อมบอกอีกว่า ตั้งแต่พระรูปดังกล่าว ตั้งสำนักสงฆ์ อยู่ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม นั้น ก็มีการถูกร้องเรียนมาเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของทางสำนักพุทธฯ ที่ต้องเข้าจัดการต่อ
ส่วนหนังสือที่นำมาแจ้งให้แก่พระรูปที่มาร้องเรียนทราบในวันนี้ มีการกำหนดกรอบระยะเวลาว่าภายใน 7 วันพระรูปดังกล่าวต้องกลับไปเข้าพบเจ้าอาวาสวัดสามชุก เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งหากไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ก็ต้องดูไปตามตัวกฎ สุดท้ายจะนำไปสู่การลาสิกขา
ทั้งนี้ หลวงพี่น้ำฝนมองว่า ไม่ควรไปเหมารวมถึงศาสนาอื่น ไปกล่าวหา ใส่ร้ายศาสนาอื่นยิ่งเป็นคณะสงฆ์ ก็ยิ่งไม่ควรจะทำแบบนี้เด็ดขาด และควรอยู่ภายใต้กฎของสงฆ์ ตามระเบียบของเถรสมาคม ซึ่งหากต้องการจะร้องเรียน ก็ควรไปร้องเรียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ควรจะออกมาแบบนี้
ด้าน กันจอมพลังระบุว่า วันนี้พร้อมเอฟซีคนที่รักเพื่อจะออกมาแสดงเจตจำนงว่าจะยืนข้างสื่อมวลชน ตามที่พพระรูปดังกล่าวมีการกล่าวอ้างว่าสื่อมักจะนำเสนอโจมตีพระพุทธศาสนา แต่ในมุมของตนเองมองว่าสื่อควรจะนำเสนอได้อย่างอิสระ และตรงไปตรงมาโดยที่ไม่ต้องกลัวใครในการนำเสนอข่าว ซึ่งตนเองยืนยันที่จะยืนข้างสื่อมวลชน