เมื่อเวลา 06.30 น. วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ผู้สื่อข่าวฉะเชิงเทรา นายเจริญ หรือน้ำ ทับอินทร์ ร่วมทีมทหารพรานที่ 1306 ผู้ใหญ่บ้าน สำรวจความเสียหายหลังจากเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา มีช้างป่าตัวโตขนาดสูงใหญ่ 1 ตัว ได้เดินมาหากินในเขตชุมชนบ้านเกาะลอย บ้านหนองคอก หมู่ที่ 3 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นชุมชนขนาดใหญ่ เป็นแหล่งเศรษฐกิจการค้าของอำเภอท่าตะเกียบ ตรวจสอบเบื้องต้นพบรั้วกำแพงเหล็กของค่ายทหารพรานที่1306หักโค่นพังเสียหาย ผู้สื่อข่าววัดรอยเท้าช้างถึงขั้นพากันตกใจ เพราะรอยเท้ากว้างกว่า 50 เซนติเมตร จมลึก
สอบถามทหารพรานที่1306 ทราบว่า ช้างป่าน่าจะพยายามมาหากินผลไม้ กล้วย ใบไผ่ ภายในด้านหลังของค่าย โดยเมื่อกลางดึกจากการรับแจ้งโดยเสียงตะโกนบอก พี่น้ำ พี่น้ำ ช้างมา ช้างมาครับ ก็เลยโทรประสานทหารพรานที่1306 ในการเฝ้าระวัง ที่ไม่สามารถทำอะไรได้ ทำได้เพียงค่อยๆเฝ้าระวัง จากที่ช้างป่าตัวโตสูงใหญ่เดินโฉบบ้านผู้สื่อข่าว ไปทางสี่แยกบ้านเกาะลอย แล้วเข้าไปด้านหลังค่ายทหารพรานที่ 1306 ที่อยู่ฝั่งถัดไปประมาณ 50 เมตร ก่อนที่จะเดินไปทางคาเฟ่ที่เป็นร้านกาแฟสดตรงข้ามหน้าโรงเรียนสิริวันวรี๓ แล้วเข้าไปในป่าปาล์มท่ามกลางความมืด ซึ่งไม่สามารถทำอะไรได้ ต้องรอให้ฟ้าสว่าง เพราะช่วงนี้ช้างป่าจะหงุดหงิดอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ และทราบอีกว่าโชคดีมีสุนัขของทหารพรานที่1306ออกมารุมเห่าไล่จนช้างป่าเดินหนี
ด้านนายเจริญ หรือน้ำ ทับอินทร์ ผู้สื่อข่าวฉะเชิงเทรา บอกว่าตนก็ตกใจ ในฐานะที่เป็นชาวบ้านคนหนึ่ง รู้สึกได้เลยว่าความไม่ปลอดภัยมาเยือน เพราะบ้านตน และค่ายทหารพรานที่1306 ตั้งอยู่ใจกลางชุมชนขนาดใหญ่ เป็นแหล่งเศรษฐกิจการค้าของอำเภอท่าตะเกียบ ช้างป่ามาได้ถือว่าไม่ธรรมดาละ ต้องบอกเลยว่าในแต่ละวันทางนายบุญนาค พรพจน์ธนมาศ นายก อบต.คลองตะเกรา ได้จัดทีมชุดอาสาเฝ้าระวังช้างป่า อปพร.คลองตะเกรา ร่วมกับเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ในการช่วยกันดูแลและผลักดัน แต่ด้วยพื้นที่ตำบลคลองตะเกรา อำเภอท่าตะเกียบ กว้างมาก และเป็นพื้นที่ภาคการเกษตร มีการปลูกยางพารา ปาล์ม และด้วยช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว นาข้าวกำลังตั้งท้องใกล้ฤดูเก็บเกี่ยว จึงมีกลิ่นหอมซึ่งช้างป่าจะชอบมาก ต้องบอกเลยว่าการที่ช้างป่าบุกมาทำลาย มาหากินในชุมชนบ้านเกาะลอย บ้านหนองคอก ถือว่าเป็นการสร้างความวิตกกังวลให้ชาวบ้านเป็นอย่างมาก