“มาริษ” ยันกต.จะทำหน้าที่อย่างมือาชีพ เจรจา MOU 44 “กัมพูชา” ย้ำผลประโยชน์สูงสุดต้องเป็นประเทศชาติ

"มาริษ" ยันผลการเจรจาเพื่อใช้ประโยชน์ปิโตรเลียมในพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนไทย-กัมพูชา ประชาชนไทยต้องเห็นชอบก่อน - ย้ำผลประโยชน์ต้องเป็นของประชาชน ชี้ MOU44 เป็นกลไกทำให้การเจรจาไทยกับกัมพูชาเดินหน้าได้

“มาริษ” ยันกต.จะทำหน้าที่อย่างมือาชีพ เจรจา MOU 44 “กัมพูชา” ย้ำผลประโยชน์สูงสุดต้องเป็นประเทศชาติ – Top News รายงาน

มาริษ

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงถึงความกังวลเกี่ยวกับพื้นที่อ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกันระหว่างไทยกับกัมพูชาในบริเวณอ่าวไทยว่า ผลการเจรจา หากจะสำเร็จ และยุติได้ จะต้องเป็นที่ยอมรับของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย และรัฐสภาของทั้งสองประเทศ จะต้องให้ความเห็นชอบ ผ่านการเสนอจากคณะรัฐมนตรี เข้าสู่กระบวนการรัฐสภาในฐานะผู้แทนประชาชน ที่จะเป็นผู้ตัดสินว่าเห็นชอบกับผลการเจรจาหรือไม่ และข้อตกลงจะต้องสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ดังนั้น จึงเป็นไปไม้ได้ ที่จะให้มีการเจรจาเพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้แก่ผู้ใดผู้หนึ่งได้ตามที่มีการกล่าวอ้าง

ส่วนการใช้ประโยชน์เหนือแหล่งปิโตรเลียมนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า ยังไม่สามารถกระทำได้จนกว่าการเจรจาดังกล่าวจะมีข้อยุติ โดยผลการเจรจาจะต้องเป็นที่ยอมรับได้ของประชาชนทั้งสองประเทศ ซึ่ง MOU44 กำหนดให้จะต้องเจรจา 2 เรื่องทั้ง “เขตทางทะเล” และ “การพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน” ไปพร้อมๆ กันโดยไม่อาจแบ่งแยกได้ พร้อมยืนยันว่า หากการเจรจาสำเร็จ ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุดต้องเป็นประเทศชาติ และพี่น้องประชาชนคนไทย ที่จะมีเขตทางทะเลที่ชัดเจนกับประเทศเพื่อนบ้าน และได้ใช้พลังงานที่มีราคาถูกลงอย่างมีนัยยะสำคัญ

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายมาริษ กล่าวถึงกรณีที่มีการเรียกร้องให้มีการยกเลิก MOU44 เพราะถือเป็นการยอมรับเส้นอ้างสิทธิของกัมพูชา และทำให้ไทยเสี่ยงเสียดินแดนว่า MOU44 ไม่ได้เป็นการยอมรับเส้นอ้างสิทธิในไหล่ทวีปของกัมพูชา และไม่ได้ทำให้ไทยเสียดินแดนใดๆ เพราะเกาะกูดอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย 100 เปอร์เซ็นต์ และจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ สาระสำคัญ ใน MOU44 เป็นเพียงการตกลงร่วมกัน “เพื่อที่จะเจรจาเท่านั้น” โดยแผนผังแนบท้าย เป็นเพียง “ภาพประกอบของพื้นที่อ้างสิทธิในไหล่ทวีปของแต่ละประเทศ” ซึ่งเส้นอ้างสิทธิในข้อตกลงนี้ ไม่ใช่เส้นเขตทางทะเล ตามที่มีการเข้าใจผิดแต่อย่างใด

นายมาริษ กล่าวย้ำว่า การคงไว้ซึ่ง MOU44 เป็นผลดีมากกว่าผลเสีย เพราะข้อตกลงนี้ทำให้ ทั้งสองฝ่าย มีพันธกรณีที่จะต้องมาเจรจากัน ทั้งในเรื่อง “เขตทางทะเล” และ “พื้นที่พัฒนาร่วม” ไปพร้อม ๆ กัน

 

ส่วนกรณีที่รัฐบาลเมื่อปี 2552 ได้มีมติเห็นชอบในหลักการให้ยกเลิก MOU44 โดยให้ไปศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้รอบคอบก่อนนำเรื่องเข้าสู่คณะรัฐมนตรี และรัฐสภานั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า ในกระบวนการศึกษาข้อมูลดังกล่าว กระทรวงการต่างประเทศได้ประชุมหารือ และรับฟังข้อคิดเห็นจากคณะที่ปรึกษากฎหมายต่างประเทศ ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานด้านความมั่นคง และด้านกฎหมาย จนได้ข้อสรุป เสนอเป็นมติคณะรัฐมนตรีในปี 2557 ว่า การคง MOU44 ไว้ เป็นผลดีมากกว่าเสีย และที่สำคัญการมีเขตทางทะเลที่ชัดเจน จะนำไปสู่การเจรจาการใช้ประโยชน์เหนือแหล่งปิโตรเลียมได้อย่างชัดเจนด้วยเช่นกัน

“ขอให้เชื่อมั่นว่า การเจรจาจะคำนึงถึงอธิปไตยและผลประโยชน์ของคนไทยเป็นที่ตั้ง โดยยืนยันว่า กระทรวงการต่างประเทศ จะทำงานด้วยความเป็นมืออาชีพสูงสุด” นายมาริษ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"คมสัน" ชี้ปมเกาะกูด อย่าเอาผลประโยชน์ชาติ เเลกประโยชน์ส่วนตัว
ไม่มีชิ้นดี! ลูกน้องแฉ “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ติดพนันหนัก-เคยเปิดบ่อน พ่อขับแท็กซี่ แม่ขายข้าวแกง
สำนักงานศาลยุติธรรม ผนึกกำลังกรมคุมประพฤติ เล็งนำกำไลEM ใช้กับผู้ต้องคดีทางเพศ-ยาเสพติด
ปปป.เข้าเรือนจำสอบ "บอสพอล-บอสแล็ป" ด้านทนายปัดให้ข้อมูลการสอบ
"ทรัมป์" ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังสื่อทั่วโลกรายงานคะแนนนำห่าง "แฮร์รีส"
ผบ.กร. ระบุ สถานการณ์เกาะกูดมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ในพิธีเปิดการฝึกกองเรือยุทธการ ประจำปี 68
กทม.ยกทัพคาราวานตรวจสุขภาพ 1 ล้านคนฟรี! มธ.ท่าพระจันทร์ 6-9 พ.ย.นี้
โจรแสบตระเวณลักจักรยานยนต์ วางแผนเหนือเมฆสับขาหลอกตำรวจ สุดท้ายสิ้นลายตามตะครุบถึงเตียงนอน อ้างหาเงินเลียงเมียท้อง
“กษิต” ชี้ถก MOU 44 รัฐบาลต้องเดินหน้าเจรจาอย่างโปร่งใส ยึดประโยชน์ต่อประเทศสูงสุด
ลมหนาวมาเยือน อาชีพขายว่าวริมถนน สร้างรายได้งามช่วงลมหนาวมาเยือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น