นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ภายหลังหารือกับบริษัทไทยในจีน และคณะภาคเอกชนจากไทย(คณะหอการค้าไทยในจีน) จำนวน 16 บริษัท อาทิ อาหาร ขนมขบเคี้ยว น้ำตาล แป้งมัน พลาสติก ธนาคาร รังนก สุขภาพและความงาม เป็นต้น ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ กงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ทูตพาณิชย์ และทูตเกษตร ณ สถานกงสุลใหญ่ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อแก้ปัญหาอุปสรรคการค้าให้กับผู้ประกอบการ ในช่วงระหว่างเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเข้าร่วมงาน China International Import Expo – CIIE ครั้งที่ 7 ซึ่งเป็นงานมหกรรมแสดงสินค้านานาชาติประจำปีของจีน โดยงาน CIIE ครั้งนี้ประเทศไทยนำผู้ประกอบการ 80 รายเข้าร่วม มาจากกระทรวงพาณิชย์ 20 ราย ซึ่งสินค้าไทยเป็นที่ชื่นชอบในจีน ช่วยสร้างโอกาสในการทำรายได้เข้าประเทศ
นายพิชัย กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มีหน้าที่ต้องส่งเสริมผู้ประกอบการไทยที่อยู่ในต่างประเทศให้มีการเจริญเติบโตและพัฒนามากยิ่งขึ้น เราอยากเห็น 80% ของงานกระทรวงพาณิชย์ คือการส่งเสริมให้เกิดการค้าการลงทุนมากๆ ส่วน 20% แค่คุมสิ่งที่จำเป็นไม่ให้มีปัญหาเท่านั้น วันนี้ได้คุยกับผู้ประกอบการไทย ทำให้ได้ข้อมูลเยอะ ได้ทราบว่าเราส่งออกรังนกมาจีนถึง 60,000 กว่าล้านบาท ถ้ามีการแก้ปัญหาข้อกฎหมายบางอันได้ จะสามารถส่งออกได้มากถึง 100,000 ล้านบาท และเรื่องแบงค์ของไทย เช่น ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ที่ได้มาตั้งสำนักงานที่จีนมานาน ระบุว่า มีนักลงทุนจีนที่สนใจจะมาลงทุนเมืองไทย อยากให้ช่วย Matching จับคู่ธุรกิจกับนักลงทุนไทย เพื่อให้มีการลงทุนจากจีนมากยิ่งขึ้นให้ประเทศไทยได้ประโยชน์ โดยเฉพาะธุรกิจไฮเทค วันนี้เราจะต้องพัฒนาไปทางด้านไฮเทค โดยเมื่อวานนี้ตนได้เดินทางไปที่บริษัทหัวเว่ย มีการเปิดศูนย์พัฒนาใหม่มูลค่ากว่า 80,000 ล้านบาท มีพนักงานมาอบรมถึง 30,000 คน และจะเปิดโอกาสให้คนไทยมาอบรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ ให้ได้เรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีต่างๆ วันนี้โลกเปลี่ยนต้องแข่งด้วยความฉลาด ทำอย่างไรให้คนของเราฉลาดเพียงพอ เป็นเรื่องที่สำคัญที่เราอยากเห็นให้เกิดขึ้น ต้องช่วยกันสนับสนุน