AFP รายงานว่าเหมา หนิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนแถลงข่าวในวันนี้ (พุธที่ 6 พย.) โดยกล่าวแสดงความหวังว่าสหรัฐกับจีนจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เมื่อทรัมป์ได้กลับมาสู่ทำเนียบขาวอีกครั้ง และว่าจีนเองจะยึดหลักการและนโยบายเดิม คือการให้เกียรติซึ่งกันและกัน, การอยู่ร่วมกันอย่างสันติและยึดหลักความร่วมมือที่วินวินทั้งสองฝ่าย พร้อมย้ำว่านโยบายของจีนต่อสหรัฐยังคงเส้นคงวาเหมือนเดิม และว่าจีนยอมรับการตัดสินใจของคนอเมริกันว่าจะเลือกใครเป็นประธานาธิบดี และการเลือกตั้งอเมริกาเป็นกิจการภายในของสหรัฐ
การเลือกตั้งสหรัฐมีขึ้นท่ามกลางการจับตามองอย่างใกล้ชิดของคนจีนท่ามกลางความวิตกเรื่องการยกระดับการเผชิญหน้าด้านการค้าระหว่างกัน และมีการพูดคุยโพสต์ข้อความกันอย่างคึกคักจนติดท็อปเทรนด์ในเว่ยป๋อ ซึ่งหนึ่งในคอมเม้นต์เขียนว่า “ทรัมป์ ยินดีด้วย แต่ช่วยมุ่งทำงานเรื่องการสร้างอเมริกาและหยุดคิดเรื่องก้าวก่ายกิจกรรภายในของประเทศอื่นด้วย”
ขณะที่อีกคอมเม้นต์ในแอ็พ “เสี่ยวหงชู” หรืออินสตาแกรมจีนระบุว่า “สงครามการค้าได้เปิดฉากขึ้นแล้ว”
อีกคอมเม้นต์ใน “โต่วอิน” หรือ TikTok บอกว่า “ครอบครัวของฉันทำการค้าระหว่างประเทศและตอนนี้โลกของพวกเขาได้ล่มสลายลงแล้ว”
อีกคอมเม้นต์ของเว่ยป๋อบอกว่า “การเพิ่มกำแพงภาษีอีกอย่างน้อย 20% ใครที่ทำธุรกิจค้าขายระหว่างประเทศควรรีบเปลี่ยนงานให้เร็วที่สุด”
ขณะที่นักธุรกิจจีนกล่าวว่า คนทำธุรกิจจีนไม่ว่าจะเป็นสาขาไหนต่างติดตามข่าวเลือกตั้งสหรัฐอย่างใกล้ชิด ด้วยคำถามและความกังวลหลังทรัมป์กลับมา อะไรจะเกิดขึ้นกับจีน และว่าขนาดทรัมป์ก็น่ากลัวมากพอแล้ว แต่ทรัมป์จะอยู่ได้แค่อีก 4 ปี แต่คนที่แรงยิ่งกว่าทรัมป์น่าจะเป็นเจดี แวนซ์ ว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐที่อาจจะขึ้นมาแทนที่ทรัมป์ในอนาคตนี่สิ
ทรัมป์ประกาศระหว่างหาเสียงว่าจะขึ้นภาษีสินค้าขาเข้าทุกชนิด 10-20% ส่วนสินค้าจากจีนจะเก็บเพิ่มขึ้นเป็น 60%