“ภูมิธรรม” เตรียมลงพื้นที่เกาะกูด ยืนยันเป็นของไทย โต้สัมปทานพื้นที่ทับซ้อน เอื้อ “ทักษิณ-ฮุนเซน”

“ภูมิธรรม” ย้ำเตรียมลงพื้นที่เกาะกูดเสาร์นี้ เพื่อยืนยันเป็นของไทย จวกจินตนาการสัมปทานพื้นที่ทับซ้อน เอื้อ"ชินวัตร-ฮุนเซน" โต้ "สมชัย" วิจารณ์นายกฯ ไม่เข้าใจท่องแท้ความต่างเรื่อง MOU44-สนธิสัญญา

“ภูมิธรรม” เตรียมลงพื้นที่เกาะกูด ยืนยันเป็นของไทย โต้สัมปทานพื้นที่ทับซ้อน เอื้อ “ทักษิณ-ฮุนเซน”

 

เกาะกูด

ข่าวที่น่าสนใจ

7 พ.ย.2567 ที่วัดชินวรารามวรวิหาร จังหวัดปทุมธานี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเตรียมลงพื้นที่เกาะกูดในวันเสาร์นี้ว่า เกาะกูดมีหน่วยกำลังของกองทัพเรืออยู่ประมาณ 50 กว่านาย ก็จะไปดูและเยี่ยมกำลังพล เพราะปกติมีนโยบายไปเยี่ยมกำลังพลในที่ต่างๆอยู่แล้ว อีกทั้งเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็ถือโอกาสไปดูสถานที่จริง รวมทั้งเยี่ยมกำลังพลว่ายังขาดแคลนอะไร จะได้เสริมเติมแต่งให้เหมาะสมกับสภาพชีวิตตรงนั้น รวมทั้งดูว่าจะสามารถพัฒนาอะไรในพื้นที่ตรงนั้นได้ นอกจากนี้จะไปดูสภาพต่างๆ ว่ายังคงมีความมั่นคงแข็งแรงหรือไม่ และการลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันว่า “เกาะกูด” เป็นของคนไทย เพราะกองกำลังทหารของเราก็อยู่ที่นั่น ในการป้องกันอธิปไตยของประเทศ รวมทั้งยังมีที่ว่าการอำเภอ มีหน่วยราชการอีกหลายหน่วยที่อยู่บนเกาะกูด ซึ่งเป็นอย่างนี้มายาวนาน ดังนั้นตนจึงอยากให้เข้าใจกันว่าเรื่องเกาะกูดเป็นแผ่นดินไทย เราได้มาจากข้อตกลงสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส และประเทศกัมพูชาก็ไม่เคยตั้งคำถามเรื่องนี้กับเรา ฉะนั้นขอให้สบายใจได้

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลาย มีผู้เกี่ยวข้องหลายส่วน อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย ก็ได้พูดชัดเจนว่าเรื่องอธิปไตยในเกาะกูดไม่ใช่ประเด็นสำคัญใน MOU 2544 ซึ่ง MOU 2544 เป็นพื้นที่ไหล่ทวีปที่ทับซ้อนกัน ต้องใช้ MOU 2544 เป็นเครื่องมือทางสันติตกลงกัน ไม่ต้องใช้อาวุธเข้าดำเนินการเหมือนอดีต นอกจากนี้ เกาะกูดเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ มีทะเลสวยงาม จึงต้องการไปในพื้นที่ เพื่อยืนยันไม่ให้การท่องเที่ยวนั้นเกิดการสะดุดหยุดลง และทำให้ประชาชนมั่นใจ เดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะกูดได้อยู่เหมือนเดิม และสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ และประชาชนในพื้นที่ด้วย

 

 

เมื่อถามว่า มองอย่างไรเพราะเรื่องมันไม่จบ ปัจจุบันมองไปไกลถึงเรื่องสัมปทาน จนถึงขั้นมีกระแสว่าจะเกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ สมเด็จฮุน เซน เรื่องการแบ่งผลประโยชน์ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ที่ผ่านมาควรเป็นบทเรียน เพราะพูดในเรื่องจินตนาการต่างๆ แต่ยังไม่รู้ว่าจริงๆคืออะไร แต่มันจะไปมีผลกระทบในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงอยากให้ฟังข้อมูลข้อเท็จจริงที่เป็นจริงทั้งหมด แล้วค่อยมาวิจารณ์ อย่าให้กลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองมาขับเคลื่อนและไปกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความมั่นคง และความเชื่อมั่นของประเทศ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ ควรจะพูดให้อยู่บนพื้นฐานความเข้าใจจริงๆ อย่างกรณี นายสมชัย ศรีสิทธิยากร อดีต กกต. ที่วิจารณ์นายกรัฐมนตรี ถ้าไปดูจะเข้าใจว่าสนธิสัญญาเรื่องเกาะกูดและ MOU 2544 เป็นเรื่องที่ตกลงกันสองรัฐ มีผลผูกพัน ซึ่งมีวิทยานิพนธ์หลายอันได้พูดเรื่องนี้ชัดเจนว่า สนธิสัญญา และเรื่อง MOU มันมีความแตกต่างกัน มันยกเลิกฝ่ายเดียวไม่ได้ ฉะนั้นการใช้ภูมิความรู้ของตัวเองที่อาจไม่มีความเข้าใจ แล้วมาวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น และไม่เป็นผลดีต่อประเทศ

 

 

เมื่อถามอีกว่า เป็นห่วงหรือไม่ การเมืองในประเทศไทยจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซ้ำรอยเหมือนที่เคยเกิดขึ้นที่จังหวัดศรีสะเกษหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อยู่ที่ประชาชน ก็อยากให้คำนึงถึงข้อเท็จจริง ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันไม่กลัวการถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่อยากให้วิพากษ์วิจารณ์ที่สอดรับกับความเป็นจริงให้มากที่สุด และวันนี้การดำเนินงานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศระหว่างรัฐบาลไทยกับประเทศต่างๆทั่วโลก ก็ไปด้วยความสัมพันธ์ที่ดี อยู่ในหลักการ และเราดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง ไปพบปะพูดคุยอยู่ตลอดเวลา

 

 

เมื่อถามว่า เป็นห่วงความเคลื่อนไหวของ กลุ่มคปท.ที่เดินทางไปพื้นที่เกาะกูดเมื่อสองสัปดาห์ก่อนนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เขาอาจจะเริ่มต้นด้วยความไม่เข้าใจหรือเข้าใจผิด เมื่อข้อมูลข้อเท็จจริงปรากฏ ตนเชื่อว่าโดยวิญญูชนทั้งหลายควรจะเข้าใจได้ว่า เมื่อไม่ใช่สิ่งที่เป็นประเด็น ก็ไม่ควรหยิบมาเป็นประเด็น เพราะไปกระทบความเชื่อมั่นของประเทศมากกว่า ตนก็หวังว่าเขาจะเข้าใจและตัดสินใจบนพื้นฐานที่เหมาะสม ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้กลัวการวิพากษ์วิจารณ์ หากเป็นข้อเท็จจริง ส่วนที่มีการเริ่มบิดเบือนว่าเรือท่องเที่ยวเข้าจอดที่เกาะกูดไม่ได้นั้น ตนก็ฝากสื่อมวลชน อะไรที่ไม่ชาข้อเท็จจริงก็ช่วยกัดการด้วย ส่วนประชาชนบนเกาะกูดไม่ได้มีปัญหาอะไร และยังคงแข็งแรง ไปคราวนี้ก็จะได้เห็นว่าความร่วมมือกับประชาชนเป็นอย่างไร ดังนั้นสื่อมวลชนเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ข้อเท็จจริงและความเข้าใจเกิดขึ้น ไม่อยากให้ไปดำเนินการในข่าวที่มันไม่มีฐานข้อมูล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จับหนุ่มเช่าบ้าน ซุกไอซ์ 18 กก. รอส่งลูกค้า สารภาพแลกค่าจ้างเดือนละ 2 แสน
"นฤมล" ย้ำจุดยืนแก้รธน.ห้ามแตะ ม.112 ชี้นิรโทษกรรมต้องไม่รวมพวกหมิ่นสถาบันฯ
‘ทนายตั้ม’เครียดหนัก หลังถูกสอบนาน 5 ชม. ตำรวจคัดค้านประกันตัว
แฟนข่าวยินดี "สันติสุข" ได้รับการคัดเลือกเป็นศิษย์เก่าดีเด่น ในโอกาสครบ 75 ปี คณะเศรษฐศาสตร์ มธ.
‘อัจฉริยะ’เผย 6 ปีที่รอคอย‘ทนายตั้ม’ถูกจับ เชื่อไม่ได้ประกันตัวแน่
จีนจ่อขยายเที่ยวบินระหว่างปท. ช่วงฤดูหนาว-ใบไม้ผลิ
ทรัมป์เล็งให้อิสราเอลยุติสงครามโดยเร็วแต่ต้องชนะขาด
แต่งงานช้างแฝดคึกคัก ! วังช้างอยุธยาฯ จัดงานแต่งงานลูกช้างฝาแฝดต่างเพศ สินสอด 4 ล้านกว่า แก้เคล็ดตามประเพณีโบราณ
สีส่งสาส์นหาทรัมป์ชี้จีน-สหรัฐต้องหันหน้าเจรจา
เลือกตั้งสหรัฐ:จับตาริพับลิกันอาจได้ครองทั้งสองสภา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น