เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ ( 6 พ.ย.) ตัวแทนจากบริษัทผู้รับเหมาช่วงกว่า 20 บริษัท ได้นำหนังสือมอบอำนาจเข้ายื่นคำร้องต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี กรณีถูกกลุ่มบริษัท UJV ที่ประกอบด้วย บริษัท Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd., Petrofac South East Asia Pte. Ltd., และ Saipem Singapore Pte. Ltd. ซึ่งเป็นผู้รับเหมาช่วง (SUBCONTRACTOR) โครงการพลังงานสะอาด CFP โรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ อ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี ฐานหลอกลวง ไม่จ่ายค่าจ้างตามสัญญาจ้างก่อสร้าง
หรือจ่ายค่าจ้างต่ำกว่าที่ตกลงกันตามสัญญา ทั้งที่รายละเอียดในสัญญาระบุว่า บริษัทผู้รับเหมาช่วงจะได้รับการจ่ายค่างานเป็นงวดๆ ตามความคืบหน้าของผลงานและสัญญาว่าจะจ่ายค่างวดงานนั้นๆ ภายใน 45 วัน หลังจากที่ผู้รับเหมาหลักได้รับมอบงานและ รับการวางบิลค่างวดงานแต่ละงวดนั้นๆ ดังปรากฏในสัญญา
แต่เมื่อบริษัทได้ดำเนินการตามข้อตกลงในสัญญาและส่งมอบงานตามกำหนดครบถ้วน พร้อมตัวแทนผู้รับเหมาหลักได้ลงลายมือรับรองผลงานที่แล้วเสร็จในแต่ละงวดงานอย่างครบถ้วนตามสัญญาแล้ว แต่ผู้รับเหมาหลัก กลับยังไม่ยอมชำระจ่ายเงินตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งล่วงเลยกำหนดจ่ายมาเป็นเวลานานเกินกว่า 45 วันแล้ว
โดยที่ผ่านมากลุ่มบริษัทผู้รับเหมาช่วง ได้ส่งจดหมายทวงถามเป็นลายลักษณ์อักษรและยังติดต่อไปพบผู้รับเหมาหลักหลายครั้ง แต่ผู้รับเหมาหลัก กลับไม่จ่ายเงินค่าจ้างงานตามสัญญา และให้เหตุผลต่างๆที่ไม่เป็นธรรม เพื่อยื้อเวลาในการจ่ายเงินค่าจ้างตามสัญญา โดยอ้างเหตุว่าขาดสภาพคล่องในการดำเนินงาน
ทั้งๆ ที่ ไทยออยล์ ได้มีการจ่ายค่าตอบแทนให้กับ Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd., Petrofac South East Asia Pte. Ltd., และ Saipem Singapore Pte. Ltd. อย่างครบถ้วนมาตลอด
และยังมีบริษัทแม่ที่สามารถให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd., Petrofac South East Asia Pte. Ltd., และ Saipem Singapore Pte. Ltd. ได้ โดยห้ามบริษัทหยุดทำงาน เพราะจะเป็นการผิดสัญญา และต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้รับเหมาหลักตามสัญญา
และแม้ที่ผ่านมาบริษัทผู้รับเหมาช่วงได้นัดหมายเจรจาและมีตัวกลางไกล่เกลี่ยกับผู้รับเหมาหลักมาโดยตลอด แต่ผู้รับเหมาหลักยังคงยื้อเวลาและไม่ยอมชำระค่างวดงาน
โดยตัวแทนจาก 20 บริษัทผู้รับเหมาช่วง ได้นำเอกสารงวดงานที่ผู้รับเหมาหลักผิดนัดชำระเงินตามสัญญาฯ แนบสำเนาไว้เป็นหลักฐานให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งแต่ละบริษัทมียอดเงินค้างจ่ายมากน้อยแตกต่างกันไป
นอกจากนั้นตัวแทนบริษัทผู้รับเหมาช่วง ยังได้นำหลักฐานข่าวประชาสัมพันธ์ ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2567 ของบริษัท ไทยออย์ จำกัด (มหาชน) ที่ระบุว่า “ไทยออยล์ ได้ทราบข่าวมาจากผู้รับเหมาช่วงบางรายในช่วงเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 ว่า UJV – Samsung, Petrofac และ Saipem ไม่จ่ายเงินค่าตอบแทนให้กับบริษัทผู้รับเหมาช่วงบางรายรามกำหนด โดย UJV – Samsung, Petrofac และ Saipem อ้างว่าขาดสภาพคล่องในการดำเนินงาน ทั้งๆ ที่ไทยออยล์ได้มีการจ่ายค่าตอบแทนให้กับ UJV – Samsung, Petrofac และ Saipem อย่างครบถ้วนมาโดยตลอด
และยังมีบริษัทแม่ที่สามารถให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ UJV – Samsung, Petrofac และ Saipem” โดย ไทยออยล์ ขอยืนยันว่า ไทยออยล์ ได้มีการจ่ายค่าตอบแทนให้แก้ UJV – Samsung, Petrofac และ Saipem ตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญา EPC อย่างครบถ้วนถูกต้องมาอย่างต่อเนื่อง แต่ UJV – Samsung, Petrofac และ Saipem ยังไม่จ่ายค่าตอบแทนค้างจ่ายให้กับบริษัทผู้รับเหมาช่วง”
ซึ่งจากข้อเท็จจริงดังกล่าวทำให้กลุ่มบริษัทผู้รับเหมาช่วง เห็นว่าการกระทำของผู้รับเหมาหลัก มีพฤติการณ์โดยทุจริตหลอกลวง ไม่จ่ายค่าจ้างตามสัญญาจ้างก่อสร้าง หรือโดยจ่ายค่าจ้างต่ำกว่าที่ตกลงกันตามสัญญาแก่บริษัท และผู้รับเหมารายอื่นกว่า 20 ราย