“พายุเตี้ยนหมู่” ยังรุนแรง ล่าสุดฝนตกหนัก เกิดน้ำท่วมฉับพลัน จนท.เร่งอพยพชาวบ้านกลางดึก

ผลกระทบพายุเตี้ยนหมู่ ทำให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดลพบุรีส่งผลให้มีน้ำป่าไหลหลากจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา ไหลลงสู่พื้นที่ต่ำและลงอ่างเก็บน้ำกุดตาเพชร ในพื้นที่ตำบลกุดตาเพชร อำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรี แต่เนื่องจากมีน้ำจำนวนมาก ทำให้น้ำล้นสปริงเวย์ของอ่างกุดตาเพชร ไหลลงพื้นที่ลุ่มทำให้มีน้ำท่วมถนน ตัดขาดระหว่างหมู่บ้านวังเชื่อม-บ้านหนองป้อง หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 5 จำนวน 4 หมู่บ้าน กว่า 400 ครัวเรือน ประชาชนกว่า 800 คน ได้รับความเดือดร้อน ท่ามกลางสายฝนที่ยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่อง บ้านกุดตาเพชร หมู่ที่ 5 ตำบลกุดตาเพชร อำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรี เร่งอพยพประชาชนกว่า 100 หลังคาเรือน โดยเฉพาะผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ เด็ก ตลอดจนสิ่งของเครื่องใช้ และสัตว์เลี้ยง ออกจากพื้นที่เนื่องจากมีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วม โดยเร่งระดมกำลังทั้งเจ้าหน้าที่ อบต.กุดตาเพชร เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทธธรรมสงเคราะห์ลำนารายณ์ (พ้งไล้ 16) และมูลนิธิพุทไธสวรรย์ลพบุรี และชาวบ้านที่เป็นชายฉกรรจ์ ขณะที่ฝนยังคงตกหนักและระดับน้ำได้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เจ้าหน้าที่ได้เร่งนำเรือท้องแบน ออกรับประชาชนตามจุดเสี่ยงต่างๆ ในแต่ละหมู่บ้านอย่างทุลักทุเล ซึ่งมีทั้งเด็ก ผู้หญิง คนชรา และผู้ป่วย ที่ต้องนำออกมาก่อน เพื่อความปลอดภัย นำทั้งหมดมารวมไว้ที่วัดกุดตาเพชร ซึ่งทางจังหวัดได้จัดทำเป็นพื้นที่พักพิงชั่วคราว ส่วนผู้ชายได้อาสาเฝ้าบ้าน ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ยังไม่สามารถนำออกมาได้ ซึ่งคงต้องใช้ยานพาหนะ และกำลังพลจำนวนมากในการขนย้าย

ทั้งนี้นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยนายประเสริฐ เล็กรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานลพบุรี นายอำเภอลำสนธิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่อำนวยการช่วยเหลือพร้อมทั้งประสานขอกำลังพลทหารและยานพาหนะที่ยกสูงเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งให้จัดตั้งศูนย์อพยพและช่วยเหลือชั่วคราวที่วัดกุดตาเพชรเพื่อช่วยเหลือประชาชน

ทางด้านนายประเสริฐ เล็กรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานลพบุรี กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำกุดตาเพชร ว่าปัจจุบันมีระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำกุดตาเพชร อยู่ที่ระดับ 119 เมตรระดับน้ำทะเลปากลาง มีปริมาณน้ำที่ 63 ล้านลูกบาศก์เมตร จากการเก็บกักสูงสุด 53 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ขณะนี้ปริมาณน้ำมากเกินกว่าการเก็บกักจึงทำให้มีปริมาณน้ำล้นสปิลเวย์ 1 เมตร 20 เซนติเมตร ขณะที่ต้องระบายน้ำลงท้ายอ่างที่ 296 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือ 25 ล้านลูกบาศก์ต่อวัน การระบายน้ำในตอนท้ายของอ่างยังรับน้ำได้ อาจจะทำให้มีน้ำไหลหลากเอ่อล้นจากคลองลำสนธิเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน พื้นที่ทางการเกษตร และพื้นที่ลุ่นต่ำบางแห่ง จึงแจ้งประชาชนให้เฝ้าระวังเก็บสิ่งของเครื่องใช้ขึ้นที่สูง และติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

ขณะที่เช้าวันนี้ (26 ก.ย. 2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. มีน้ำฝนสีแดงขุ่นจากเทือกเขาต่างๆ ในพื้นที่สูงจาก ต.เพนียด อ.โคกสำโรง ได้ไหลหลากมาตามถนนสุระนารายณ์ทั้งสาย ขณะนี้มวลน้ำได้ไหลเข้าสู่ตัวเมืองโคกสำโรง เข้าท่วมพื้นที่ราชการ ตลาด วัดวาอารามต่างๆ ซึ่งประชาชนต่างแตกตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านร้านค้า พ่อค้าแม่ขายตลาดเช้าบางรายเก็บของไม่ทัน สิ่งของได้รับความเสียหายล่องลอยไปตามสายน้ำ ซึ่งปริมาณน้ำขณะนี้อยู่ที่ 50 – 70 ซม. ถนนบางสายรถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้

ทั้งนี้ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วยังได้ไหลเข้าท่วม ถนนในเขตเทศบาลอำเภอโคกสำโรง และกำลังจะไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนในเขตเทศบาล ต.โคกสำโรง ทางในเบื้องต้นชาวบ้านได้นำกระสอบทราย มาวางเป็นแนวไว้เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของตนเอง โดยคาดว่าวันนี้ ปริมาณน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก อาจจะส่งผลกระทบกับประชาชนในเขตเทศบาลและบ้านเรือนเป็นบริเวณกว้างอย่างแน่นอน โดยให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากประกาศของทางราชการอย่างใกล้ชิด และให้ประชาชนระมัดระวังเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้า สัตว์มีพิษ ควรนำเด็ก ผู้หญิง คนชรา และผู้ป่วยนำไปไว้ที่ปลอดภัย และเร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงด่วน