“นศ.รามฯ” ยื่น 4 ข้อ ขอครม.เจรจาผลประโยชน์ทางทะเลไทย-กัมพูชา รอบคอบโปร่งใส

“นศ.รามฯ” ยื่น 4 ข้อ ขอครม.เจรจาผลประโยชน์ทางทะเลไทย-กัมพูชา รอบคอบโปร่งใส

Top news รายงาน วันที่ 12 พ.ย.67เวลา 13.25น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายปาณวัฒน์ มุสิกะพงศ์ ตัวแทนเครือข่ายนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง พรรคเพื่อราม พร้อมเครือข่าย เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลผ่านนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

โดยยื่น 4 ข้อเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาและปฏิบัติกรณีเกี่ยวกับผลประโยชน์ในน่านน้ำเศรษฐกิจระหว่างราชอาณาจักรไทยและกัมพูชา (เกาะกูด)

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยระบุว่าเครือข่ายนักศึกษาและภาคประชาชนจากมหาวิทยาลัยรามคำแหงสถาบันการศึกษาทุกระดับและภาคส่วนต่างๆ เกิดความไม่สบายใจอันเนื่องมาจากความกังวลของประชาชนและความไม่ชัดเจนจากรัฐบาลในกรณีดังกล่าว จึงขอแสดงจุดยืนเพื่อให้รัฐบาลพิจารณา ดังนี้
1. ขอให้รัฐบาลคำนึงถึงและยึดมั่นในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS) ค.ศ.1982 มาตรา 121 วรรคสองอย่างเคร่งครัด
2. ขอให้รัฐบาลดำเนินการในประเด็นนี้ด้วยความรอบคอบและโปร่งใสทุกขั้นตอนตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ผนวกร่วมกับพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 7 และมาตรา 20
3. อ้างอิงตามหลักการในข้อ2 ขอให้มีการเปิดเผยข้อมูลของกลุ่มธุรกิจและผู้ได้รับประโยชน์จากสัมปทานใดๆ ในพื้นที่เจรจาร่วมเพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้รับทราบข้อมูลอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกันเพื่อความเข้าใจในสถานการณ์และประโยชน์ที่พึงได้รับของประชาชนและประเทศชาติ และ4. เครือข่ายนักศึกษาไม่ได้คัดค้านสิทธิอำนาจของรัฐบาลในการดำเนินการเพื่อผลประโยชน์แห่งชาติแต่ขอให้ดำเนินการดังกล่าวอย่างสุขุมรอบคอบโปร่งใสและสะท้อนการเป็นตัวแทนเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง

นายปาณวัฒน์ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลนำประเด็นเจรจานี้เข้าสู่กระบวนการทางรัฐสภาตามมาตรา 178 วรรค2 และ 3 เพื่อให้เกิดการถกเถียงทางด้านนโยบายสาธารณะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศขอให้รัฐบาล ประชาสัมพันธ์กระจายข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนรับรู้อย่างทั่วถึง โดยที่การตัดสินใจใดๆ จะต้องดำเนินการผ่านกระบวนการรัฐสภาอย่างเคร่งครัด

 

 

 

 

ทั้งนี้ นายสมคิด ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมรับฟังความคิดเห็นประชาชนและทุกภาคส่วน ในประเด็นดังกล่าวเพื่อให้เกิดความรอบคอบ ตนเห็นด้วยที่จะต้องมีการชี้แจงให้กับประชาชนเข้าใจและผ่านกระบวนการคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (JTC) และ หากจะต้องมีการทำสนธิสัญญา จะต้องนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมรัฐสภา โดยย้ำว่าไทยไม่ได้เสียดินแดนเกาะกูด ตามที่มีฝ่ายพยายามปั่นกระแส และกัมพูชาก็ไม่คิดว่าเกาะกูดเป็นของเขาเลย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ดีเจแมน" เปิดใจ หลังได้รับอิสรภาพ กราบเท้าพ่อ-แม่ พร้อมขอเวลาปรับตัวการใช้ชีวิตนอกเรือนจำ
ผอ.สวนสัตว์ ยันชัด “วิทาลิก บูเทอริน” มอบเงิน 10 ล้านจริง สร้างบ้านใหม่ให้หมูเด้ง
“Amazing Coding By Micro bit” .. CONNEXT ED หนุน รร.บ้านหนองกระทุ่ม ชัยภูมิ เรียนรู้โค้ดดิ้ง
ตร.สอบปากคำเข้ม "เจ้าของงานเลี้ยง-ลูกชาย" ปมจ้าง "แบงค์ เลสเตอร์" 3 หมื่นให้ดื่มเหล้าเพียวจนเสียชีวิต
อิสราเอลทิ้งระเบิดใส่รถนักข่าวในกาซา
เปิดภาพวงจรปิด แม่สะพายลูกวัย 4 เดือน ขี่รถจยย.ชนท้ายรถบรรทุก แม่ดับ-ลูกสาหัส
คู่หู ‘มนุษย์หิมะ’ ยักษ์ ยิ้มแย้มต้อนรับในจีน
ฝ่ายค้านเกาหลีใต้ยื่นถอดถอนรักษาการณ์ปธน.
หลายประเทศเอเชียจัดพิธีรำลึก 20 ปีสึนามิพัดถล่ม
โรงรับจำนำ กทม. ลดดอกเบี้ยพิเศษ 20% ทุกวงเงิน มอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนกรุงฯ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น