ปิดตำนาน โฉนดถุงกล้วยแขก วัดสวนแก้ว 20 ปี “ทนายอนันต์ชัย” ช่วย “พระพยอม” เจรจา เตรียมตั้งกองผ้าป่าปลดล็อก
ข่าวที่น่าสนใจ
วันที่ 13 พ.ย.67 ที่วัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว พร้อมด้วย นายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม และ ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา รองประธานมูลนิธิทนายกองทับธรรม ร่วมแถลงข่าวปิดตำนานที่ดินแปลงที่รู้จักกันในนาม “ที่ดินถุงกล้วยแขก” พร้อมประกาศเปิดผ้าป่าปลดล็อกแผ่นดินเพื่อระดมทุน 1.9 ล้านบาท จ่ายค่าเสียหายตามคำสั่งศาล โดยสามารถร่วมบริจาคผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 1211180387 ชื่อบัญชี วัดสวนแก้ว
โดยพระพยอมซื้อที่ดินแปลงนี้ขนาด 1 ไร่ 1 งาน 55 ตารางวา ในราคา 10 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2547 แต่ในปี 2563 มีบุคคลอื่นอ้างว่าเป็นเจ้าของสิทธิ์ที่ดินตัวจริง โดยอ้างว่าที่ดินนี้เป็นที่ดินปรปักษ์ ซึ่งนางวันทนา ได้ครอบครองไว้และขายต่อให้วัดสวนแก้ว ข้อพิพาทเกิดขึ้นเมื่อผู้ที่อ้างสิทธิ์ได้ทำการล้อมรั้วกั้นไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าใช้งานพื้นที่ดังกล่าวจนเกิดการฟ้องร้องในศาลและทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นที่ดินพิพาท
นายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากพระพยอมตั้งแต่ 18 ส.ค.2565 ให้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาที่ดินกล้วยแขก หลังผ่านการต่อสู้คดีมาเกือบ 20 ปีโดยพึ่งกระบวนการศาลแต่ก็ยังไม่สามารถหาทางออกได้ จึงต้องหันมาใช้การไกล่เกลี่ยแทน จึงได้ทำการตรวจสอบประวัติโฉนดที่ดินอย่างละเอียด และในวันที่ 19 ต.ค. 2567 ได้เดินทางไปสอบถามปัญหากับพระพยอมโดยตรง หลังจากเจรจากับเจ้าของเดิมของที่ดินและทำการประนีประนอมกัน ทางวัดสวนแก้วต้องจ่ายค่าเสียหาย จำนวน 1.9 ล้านบาท โดยสามารถผ่อนชำระได้ ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดข้อพิพาทที่ดินกล้วยแขกที่ยืดเยื้อมานาน ทางวัดจะทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าวในเร็ว ๆ นี้ เพื่อแสดงถึงการปิดตำนานที่ดินแปลงนี้อย่างเป็นทางการ
ด้านพระพยอม ชี้แจงว่า พื้นที่เดิมของวัดสวนแก้วเป็นเพียงวัดร้างที่มีที่ดินแค่ 3 ไร่ เมื่อเข้ามาดูแลจึงได้ทยอยซื้อที่ดินเพิ่มเติมจนมีที่ดินในครอบครองกว่า 300 ไร่ ใช้สำหรับปลูกสวนและทำประโยชน์ในกิจกรรมต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าโฉนดที่ดินแปลงนี้มีความสำคัญเนื่องจากเป็นที่ดินที่เคยเป็นของอาจารย์พระผู้มีคุณ ทั้งนี้ยังได้ซื้อที่ดินอย่างถูกต้องตามกฎหมายและบริสุทธิ์ใจในการถือครองมาตลอด แต่เมื่อเกิดข้อพิพาทขึ้นการฟ้องร้องในศาลทำให้ต้องคืนที่ดินแปลงนี้กลับไปให้กับเจ้าของเดิม
วันนี้รู้สึกยินดีและปลื้มใจที่ปัญหาข้อพิพาททั้งหมดสามารถจบลงได้อย่างสันติ ในอดีตมีหลายท่านที่ต้องการบริจาคเงินจำนวนมากให้วัด แต่ก็ไม่เคยรับเงินบริจาคดังกล่าว ในตอนนี้หากมีผู้ต้องการร่วมทำบุญก็พร้อมรับบริจาคเพื่อนำไปชำระค่าเสียหายที่ค้างอยู่ และขอเชิญชวนญาติโยมให้ร่วมบริจาคกับผ้าป่าปลดล็อกแผ่นดินนี้ เพื่อให้ทางวัดสามารถใช้เงินที่ได้รับไปบำเพ็ญประโยชน์ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น