สำนักข่าวจีจี้, ANN และรอยเตอร์สรายงานว่าสำนักงานตำรวจกรุงโตเกียวออกมายืนยันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (13 พย.) ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกจับกุมนายสตีฟ เฮย์ส นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันวัย 65 ปีที่ห้องพักภายในโรงแรม หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าก่อเหตุและสร้างความเสียหายให้กับเสาโทริอิ ที่บริเวณทางเข้าศาลเจ้าเมจิ จิงงู ซึ่งถือเป็นโบราณสถานอายุ 103 ปี เมื่อวันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน
โดยกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นว่าเฮย์สได้แอบสลักนามสกุลของตัวเอง จำนวน 5 ตัวอักษรลงบนเสาโทริอิ โดยการใช้เล็บขีดลงบนเนื้อไม้
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ของสถานทูตสหรัฐประจำกรุงโตเกียวได้เดินทางไปเยี่ยมเฮย์สเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านเอกสารและงานกงสุล ทั้งนี้สื่อญี่ปุ่นเผยว่านายเฮย์สเดินทางมาท่องเที่ยวพร้อมกับครอบครัว โดยมาถึงญี่ปุ่นเมื่อวันจันทร์
เหตุการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่นักท่องเที่ยวจีน 3 คนตกเป็นผู้ต้องสงสัยพ่นสีลงบนเสาโทริอิที่ศาลเจ้ายาสุคุนิเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และก่อนหน้านี้ก็มีอินฟลูเอ็นเซอร์สาวชาวชิลีเผยคลิปวิดิโอขณะทำท่าออกกำลังกายยกน้ำหนักที่หน้าเสาโทริอิแห่งหนึ่ง สร้างความไม่พอใจอย่างมากให้ชาวญี่ปุ่น ก่อนที่อินฟลูเอ็นเซอร์จะรีบลบคลิปและออกมาขอโทษ
นับตั้งแต่เปิดประเทศหลังการแพร่ระบาดของโควิด 19 ญี่ปุ่นได้รับนักท่องเที่ยวเกือบ 27 ล้านคน ทำลายสถิติตัวเลขก่อนโควิด อัดฉีดเงินจำนวนมหาศาลกว่า 5.8 ล้านล้านเยนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจญี่ปุ่น แต่ขณะเดียวกันก็สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าไม่น้อยจากพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของนักท่องเที่ยวและจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากเกินไป