“บิ๊กก้อง” สั่งสอบข่าว บิ๊กบช.ก.ขวางคดีดิไอคอน ปี 65 พบต้นตอเพื่อนอดีตสามีเจ๊พัช รับทำตามคำสั่ง

“บิ๊กก้อง” สั่งสอบข่าว บิ๊กบช.ก.ขวางคดีดิไอคอน ปี 65 พบต้นตอเพื่อนอดีตสามีเจ๊พัช รับทำตามคำสั่ง

“บิ๊กก้อง” สั่งสอบข่าว บิ๊กบช.ก.ขวางคดีดิไอคอน ปี 65 พบต้นตอเพื่อนอดีตสามีเจ๊พัช รับทำตามคำสั่ง

 

ข่าวที่น่าสนใจ

มีรายงานระบุว่า พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช หรือ บิ๊กก้อง ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สั่งการให้ทีมสืบสวน ตรวจสอบกรณี นางสาว กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือเจ๊พัช ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหา “กรรโชกทรัพย์” และ “เป็นตัวกลางเรียกรับสินบน” โดยแอบอ้างเรียกเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายดิไอคอนฯ

โดยประเด็นที่ บิ๊กก้อง สั่งให้ตรวจสอบ เนื่องจากเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 65 ขณะนั้นนางสาวกฤษอนงค์ เป็นประธานอำนวยการ ศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ รวมทั้งเปิดเพจ กฤษอนงค์ต้านโกง กฤษอนงค์online ศคอ.ศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ซึ่งให้คำแนะนำรับเรื่องราวร้องทุกข์ ประสานงานหน่วยงานภาครัฐ และภาคีเครือข่ายบูรณาการ เพราะมีชื่อเสียงในวงการแชร์มานาน รวมทั้งเป็นผู้ก่อตั้งองค์กรต่อต้านแชร์ลูกโซ่

ต่อจากนั้นเคยนำกลุ่มผู้เสียหายจำนวนหนึ่ง เข้าพบตำรวจ ปคบ. เพื่อร้องเรียนบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ทำให้กล่าวหากันว่า สาเหตุที่คดีไม่คืบหน้า ก็เป็นเพราะมี “บิ๊กของสอบสวนกลาง” เข้ามาแทรกแซง หลังจากนั้น ยังส่งตัวแทนเข้าไปร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกด้วย

 

ต่อมา เมื่อตรวจสอบก็พบว่า ผู้ที่ร้องเรียนกรณีดังกล่าวคือ นายชนะชล ปัจจุบันนอนรักษาอาการป่วยเส้นเลือดสมองแตก อยู่ที่บ้าน ในจังหวัดนครราชสีมา จากการสอบสวนทราบว่า นายชนะชล เคยเป็นนักเรียนพลตำรวจ รุ่นเดียวกับอดีตสามีของ น.ส.กฤษอนงค์ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้กำกับสอบสวน อยู่ในตำรวจภูธรภาค 3 ส่วนนายชนะชลนั้น ลาออกจากตำรวจ ตั้งแต่ครั้งยศ สิบตำรวจโท

จากนั้น นายชนะชล ได้มาร่วมทำงานให้เพื่อนนายตำรวจ ซึ่งขณะนั้นยังอยู่กินกับ น.ส.กฤษอนงค์ มีลูกด้วยกัน 2 คน โดย น.ส.กฤษอนงค์ ได้ตั้งชมรมต่อต้านแชร์ลูกโซ่

ส่วนนายชนะชล ก็จะคอยรับงานเดินสายร้องเรียนบริษัทต่างๆ ที่พบว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายฯ ซึ่งการร้องเรียนต่างๆ นายชนะชล ให้การว่า ตนเองรับคำสั่งมาอย่างเดียว โดยไม่ทราบรายละเอียดใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนที่เหลือ ก็จะเป็นหน้าที่ของ น.ส.กฤษอนงค์ แต่ก็ไม่ทราบว่า เขาจะไปดำเนินการต่ออย่างไรบ้าง ภายหลังนายชนะชล ล้มป่วยลงจากอาการเส้นเลือดในสมองแตก ออกไปทำงานไม่ได้ และไม่ได้ติดต่อกับ น.ส.กฤษอนงค์ อีกเลย

 

 

ส่วนความคืบหน้าการสอบปากคำ น.ส.กฤษอนงค์ หลังถูกควบคุมตัวมายังกองปราบฯ และมีการสอบปากยาวนานหลายชั่วโมง ล่าสุด ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจกองปราบปราม ได้สั่งข้าวกล่องมาให้ น.ส.กฤษอนงค์ ซึ่งถูกคุมขัง อยู่ที่ห้องควบคุมตัวชั้น 1 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม โดยเมนูที่สั่งเป็นข้าวคลุกกะเพราไก่ และน้ำเปล่า 1 ขวด นอกจากนี้ ทีมข่าวได้พูดคุยกับตำรวจสิบเวร เปิดเผยว่า น.ส.กฤษอนงค์ ถูกสอบปากคำถึง 5 ทุ่ม เมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนนำตัวมาที่ห้องควบคุมตัว จากการตรวจสอบในช่วงเช้า พบว่า น.ส.กฤษอนงค์ ยังคงนอนหลับตามปกติ จากอาการอ่อนเพลีย

ขณะที่ พลตำรวจตรี สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า หลังจากการสอบปากคำยาวนานกว่า 5 ชั่วโมง น.ส.กฤษอนงค์ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ให้การใดๆ กับพนักงานสอบสวน โดยอ้างว่าจะขอให้การเป็นเอกสารในภายหลัง จึงทำให้ในวันนี้ ยังไม่ดำเนินการนำตัว น.ส.กฤษอนงค์ มาสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งหลังจากนี้เตรียมจะนำตัว น.ส.กฤษอนงค์ ส่งฝากขังผัดแรก ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในวันจันทร์ที่ 18 พ.ย. โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และข่มขู่พยาน

 

 

สำหรับมูลเหตุสำคัญที่นำมาสู่การออกหมายจับ และเข้าจับกุมน.ส.กฤษอนงค์ นั้น เนื่องจากพบหลักฐานเป็นเส้นทางการเงิน ที่ นายวรัตน์พล หรือ บอสพอล โอนเข้าบัญชีของมูลนิธิต่อต้านโกง-แชร์ลูกโซ่ “กฤษอนงค์ต้านโกง” จำนวน 4 แสน 5 หมื่นบาท รวมไปถึงเงินสดที่นายวรัตน์พล นำไปมอบให้อีกจำนวน 3 แสนบาท

สอดคล้องกับคำให้การของพยานบุคคลต่างๆ ที่ให้การไปในทิศทางเดียวกันว่า หลังมีการเปิดโปงธุรกิจเครือข่ายดิไอคอน จนเป็นข่าวดังขึ้นมา น.ส.กฤษอนงค์ ได้เข้าไปพูดคุยกับบอสพอล และคนใกล้ชิด เพื่อขอเรียกเงินจำนวน 7 แสน 5 หมื่นบาท แลกกับการไม่พาผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์เพิ่ม หรือไม่เปิดโปงเรื่องราวให้บริษัทเสียหายไปมากกว่านี้ พร้อมทั้งพยายามพูดปลอบประโลม ให้คำแนะนำทางคดีต่างๆ จนบอสพอล ต้องจำยอมจ่ายเงินรวมจำนวน 7 แสน 5 หมื่นบาทให้ ตามที่ น.ส.กฤษอนงค์ เรียกร้อง

นอกจากนี้ ฝั่งบอสคดีดิไอคอน รวมถึงพยานบุคคลต่างๆ ยังให้การสอดคล้องกันว่า ตัว น.ส.กฤษอนงค์ ยังมีการพูดแอบอ้างเรียกเงินบางส่วนเพิ่มเติม อ้างว่าจะนำไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ หรือผู้หลักผู้ใหญ่ในภาครัฐ สอดคล้องกับหลักฐาน จนเป็นเหตุให้มีการออกหมายจับ

แนวทางสืบสวนเจ้าหน้าที่ยังทราบอีกว่า แม้ น.ส.กฤษอนงค์ จะมีส่วนสำคัญในการเป็นตัวกลางเจรจากับบอสพอล จนทำให้ บอสพอล ยอมจ่ายเงินชดใช้คืนให้กลุ่มผู้เสียหายจำนวน 10 ล้านบาท แต่ภายหลังกลับพบว่า น.ส.กฤษอนงค์ นั้น กลับไปเรียกเก็บเงินคืนจากผู้เสียหาย คิดเป็นเงินร้อยละ 20 ของเงินที่ผู้เสียหายได้กลับคืนอีกด้วย

 

 

ในส่วนคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ น.ส.กฤษอนงค์ รวมไปถึงคดีที่พัวพันกับฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ เกี่ยวเนื่องกับการเรียกรับผลประโยชน์ 20 ล้านบาท กับกลุ่ม The iCon Group นั้น มีรายงานข่าวว่า ในวันจันทร์นี้ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จะเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวน เพื่อหารือเกี่ยวกับคดีดังกล่าว ต้องจับตาเรื่องนี้จะสาวไปถึงตัวใคร และจะมีใครต้องเดินเข้าคุกตามไปอีกบ้าง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้ต้องหา ฆ่าตัดนิ้ว แม่ยายอัยการ ยังปากแข็ง ตร.เชื่อคนร้ายมีมากกว่า 1 คน เร่งขยายผลจับกุม
‘แพนด้ายักษ์’ จีนในส่านซี โชว์สกิลวิชาตัวเบา
ซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ถล่มฟิลิปปินส์สองรอบ
เพจดังจัดหนัก “พรรคส้ม” โพสต์ข้อความทำสังคมสับสน เคลมผลงานผลักดันนโยบายแพทย์ทางไกล เจอ “แขก คำผกา” สวนสุดเจ็บ
จับ "ใบเฟิร์น" อินฟลูฯสาวเซ็กซี่ดัง ลักลอบแปะลิงก์ชวนเล่นพนันออนไลน์
ออกหมายจับ ! สามีชาวต่างชาติของนางกมลวรรณ ผู้ต้องหา คดีฆ่าตัดนิ้วนางชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ
"กนก" ปรบมือ ให้กำลังใจ "โอปอล" คว้ารองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024
นทท.แตกตื่น แต่เช้าเพลิงไหม้ห้องพัก อพยพอลหม่าน
เปิด อู่ ซ่อม รถจยย. บังหน้า ที่แท้เป็นโจรขโมย รถ จยย.
หนุ่มโบลท์ ฉุน! แหม่มรัสเซียทักอย่าขับซิ่ง จอดรถต่อยเลือดกลบปากหน้าป้อมตำรวจพัทยา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น