BBC และ AFP รายงานว่าเซเลนสกี้กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับวิทยุยูเครนเมื่อวานนี้ (เสาร์ที่ 16 พย.) ว่าเขาต้องการที่จะปิดฉากปฏิบัตการสู้รบกับรัสเซียให้ได้ภายใต้ปีหน้าหรือปี 2568 เนื่องจากเป็นนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐภายใต้การนำของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่จะเข้ารับตำแหน่งในปีหน้า ยูเครนจึงจำเป็นต้องทำทุกวิถีทางเพื่อยุติสงครามให้ได้ตามเป้าหมาย และจะต้องยุติผ่านช่องทางการเจรจา ซึ่งก่อนหน้านี้เพียงวันเดียวเซเลนสกี้ออกมาพูดว่าสงครามยูเครน-รัสเซียจะจบเร็วกว่าที่คิด
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินเคยพูดมาโดยตลอดว่ารัสเซียจะยอมเจรจาต่อเมื่อยูเครนยอมปล่อยมือจากดินแดนที่รัสเซียยึดมาได้เท่านั้น และระหว่างการต่อสายคุยกับนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์เมื่อวันศุกร์ ปูตินก็ย้ำถึงจุดยืนเดิม ซึ่งเป็นจุดยืนที่เซเลนสกี้ปฏิเสธมาโดยตลอดเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้เซเลนสกี้ยอมรับแล้วว่ายูเครนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเนื่องจากทหารรัสเซียรุกคืบเข้ามาเรื่อยๆจากฝั่งตะวันออกของยูเครน และขณะนี้ก็ใกล้ถึงเมืองสำคัญหลายเมือง รวมทั้งโปครอฟสก์และคูราคอฟ
เซเลนสกี้บอกด้วยว่าการสนทนาทางโทรศัพท์กับทรัมป์หลังจากที่ทรัมป์ชนะเลือกตั้งเป็นไปอย่างสร้างสรร แต่ไม่ได้บอกว่าทรัมป์บังคับให้เจรจากับปูตินหรือไม่
ทรัมป์เคยประกาศระหว่างการรณรงค์หาเสียงว่าหากชนะเลือกตั้ง เขาจะยุติสงครามยูเครนภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้สหรัฐต้องสูญเสียงบประมาณไปกับการช่วยเหลือยูเครนมากไปกว่านี้ โดยไม่นานนี้ สภาผู้แทนสหรัฐเพิ่งอนุมัติงบด้านกลาโหม 6 หมื่น 1 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐให้กับยูเครน นับตั้งแต่สงครามเปิดฉากในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 จนถึงมิถุนายน 2567 สหรัฐได้ส่งอาวุธไปช่วยยูเครนคิดเป็นมูลค่ามากถึง 5 แสน 5 หมื่น 5 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ