ผู้นำสหรัฐฯ-จีนเห็นพ้องให้คนคุมนิวเคลียร์ ไม่ใช่ AI

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เห็นพ้องระหว่างพบปะนอกรอบประชุมเอเปค ที่ประเทศเปรู เมื่อวันเสาร์ (16 พ.ย.) ว่า มนุษย์ ควรเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ไม่ใช่ ปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ

 

ทำเนียบขาว ระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้นำสหรัฐฯและจีน เห็นพ้องความจำเป็นในการยืนยันให้ มนุษย์ ควบคุมการตัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์ และย้ำความเป็นที่จะต้องพิจารณาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น อย่างรอบคอบ และพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในด้านการทหาร อย่างละเอียดถี่ถ้วนและมีความผิดชอบ

 

ไม่แน่ชัดว่าแถลงการณ์ในเรื่องนี้ จะนำไปสู่การเจรจาเพิ่มเติม หรือแผนปฏิบัติการในประเด็นอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ แต่ก็ถือเป็นก้าวแรกที่สองประเทศมหาอำนาจ หารือในประเด็นที่ยังไม่มีความคืบหน้าอย่าง อาวุธนิวเคลียร์ และ ปัญญาประดิษฐ์

 

สหรัฐฯ พยายามผลักดันมานานหลายเดือน ให้จีนหันมาพูดคุยเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ แม้ว่าในเดือนนี้ มีการพูดคุยเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ในระดับเจ้าหน้าที่ แต่เป็นการพูดคุยสั้น ๆ และนับแต่นั้นก็ชะงักงัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯ แสดงออกอย่างเปิดเผยว่า ไม่พอใจกับการตอบสนองของจีน

 

อย่างไรก็ดี เป็นที่คาดว่า การเจรจาว่าด้วยการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์อย่างเป็นทางการ จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ แม้สองฝ่ายกลับมาติดต่อแบบกึ่งทางการแล้วก็ตาม

 

ในเรื่องเอไอ จีนและสหรัฐฯ เคยประชุมทวิภาคีอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่นครเจนีวา แต่เชื่อว่า การพูดคุยกันครั้งนั้น ไม่ได้แตะเรื่องการตัดสินใจเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์

 

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ประเมินในปี 2566 ว่า จีนมีหัวรบนิวเคลียร์พร้อมใช้งาน 500 ลูก และอาจเพิ่มเป็นกว่า 1,000 ลูกภายในปี 2573 หรืออีก 6 ปีข้างหน้า เปรียบเทียบสหรัฐและรัสเซียที่มีจำนวน 1 พัน 770 ลูก และ 1 พัน 710 ลูกตามลำดับ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า ภายในปี 2573 หัวรบนิวเคลียร์ส่วนใหญ่ของจีน อาจอยู่ในระดับที่มีความพร้อมใช้งานเพิ่มขึ้น

 

ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา จีนเดินหน้าพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ให้ทันสมัย โดยเริ่มผลิตเรือดำน้ำติดขีปนาวุธทิ้งตัวรุ่นใหม่ ทดสอบหัวรบยานร่อนความเร็วเหนือเสียง (hypersonic glide vehicle) และลาดตระเวนทางทะเลพร้อมอาวุธนิวเคลียร์เป็นประจำ

 

การมีอาวุธนิวเคลียร์ทั้งบนบก ในอากาศและในทะเล ทำให้จีนมี “สามเหล่านิวเคลียร์” ( nuclear triad ) ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญของการเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์

 

จีนไม่เคยเปิดเผยรายละเอียดคลังแสงนิวเคลียร์ แต่ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า จีนมีนโยบายที่จะไม่ใช้โจมตีก่อน และจะมีนิวเคลียร์สมัยใหม่ไว้เพื่อการป้องปรามในระดับต่ำสุด ขณะเรียกร้องให้มหาอำนาจอื่น ๆ รับรองจุดยืนแบบเดียวกัน

 

ในการแลกเปลี่ยนกึ่งทางการ ระหว่างนักวิชาการสหรัฐฯและเจ้าหน้าที่เกษียณเมื่อไม่นานมานี้ นักวิชาการชาวจีน กล่าวว่า นโยบายของจีนคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และตะวันตกประเมินจีน “เกินจริง

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ข่าวดี! “กลุ่มเปราะบาง” ดู “หมูเด้ง” เข้าสวนสัตว์ทั่วไทยฟรี 3 ปี
"ธรรมนัส" ยันลงพื้นที่ จ.อุดรธานี เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ปัดช่วย "ผู้สมัคร" หาเสียงชิ้งเก้าอี้ นายก อบจ.
หิมะขาวตกห่มหิน ราว‘เห็ดหิมะ’ ในจีน
เกาหลีเหนือขู่ขยายกองทัพนิวเคลียร์แบบไร้ขีดจำกัด
“บิ๊กเต่า” พบเส้นเงินใหม่จากบัญชีแม่ ถึงนาย ส.อีก 10 ล้าน จ่อส่งให้ DSI ทำคดีฟอกเงิน
ตำรวจเชิญ “ปานเทพ” ให้ข้อมูลเพิ่ม ฐานะพยาน “คดีทนายตั้ม” รู้เบาะแสแบ่งเงิน 39 ล้าน ให้ใครบ้าง
"ตร.สภ.วังจันทร์" นำตัวผู้ต้องหาฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชี้จุดนำทองมาขาย
DSI สอบปากคำ ‘บอสพอล’ ปมคลิปเสียง ‘กฤษอนงค์’ พาดพิงหน่วยงาน อ้างจ่าย 10 ล้าน
คุมตัวผู้ต้องหาทำแผน คดีฆ่าตัดนิ้วนางทั้งสองข้างแม่ยายอัยการ
“อนุทิน” ไม่ไปช่วยหาเสียง "นายกอบจ.สุรินทร์" ชี้ขอวางตัวเป็นกลาง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น