ทำเนียบขาว ระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้นำสหรัฐฯและจีน เห็นพ้องความจำเป็นในการยืนยันให้ มนุษย์ ควบคุมการตัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์ และย้ำความเป็นที่จะต้องพิจารณาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น อย่างรอบคอบ และพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในด้านการทหาร อย่างละเอียดถี่ถ้วนและมีความผิดชอบ
ไม่แน่ชัดว่าแถลงการณ์ในเรื่องนี้ จะนำไปสู่การเจรจาเพิ่มเติม หรือแผนปฏิบัติการในประเด็นอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ แต่ก็ถือเป็นก้าวแรกที่สองประเทศมหาอำนาจ หารือในประเด็นที่ยังไม่มีความคืบหน้าอย่าง อาวุธนิวเคลียร์ และ ปัญญาประดิษฐ์
สหรัฐฯ พยายามผลักดันมานานหลายเดือน ให้จีนหันมาพูดคุยเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ แม้ว่าในเดือนนี้ มีการพูดคุยเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ในระดับเจ้าหน้าที่ แต่เป็นการพูดคุยสั้น ๆ และนับแต่นั้นก็ชะงักงัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯ แสดงออกอย่างเปิดเผยว่า ไม่พอใจกับการตอบสนองของจีน
อย่างไรก็ดี เป็นที่คาดว่า การเจรจาว่าด้วยการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์อย่างเป็นทางการ จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ แม้สองฝ่ายกลับมาติดต่อแบบกึ่งทางการแล้วก็ตาม
ในเรื่องเอไอ จีนและสหรัฐฯ เคยประชุมทวิภาคีอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่นครเจนีวา แต่เชื่อว่า การพูดคุยกันครั้งนั้น ไม่ได้แตะเรื่องการตัดสินใจเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ประเมินในปี 2566 ว่า จีนมีหัวรบนิวเคลียร์พร้อมใช้งาน 500 ลูก และอาจเพิ่มเป็นกว่า 1,000 ลูกภายในปี 2573 หรืออีก 6 ปีข้างหน้า เปรียบเทียบสหรัฐและรัสเซียที่มีจำนวน 1 พัน 770 ลูก และ 1 พัน 710 ลูกตามลำดับ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า ภายในปี 2573 หัวรบนิวเคลียร์ส่วนใหญ่ของจีน อาจอยู่ในระดับที่มีความพร้อมใช้งานเพิ่มขึ้น
ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา จีนเดินหน้าพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ให้ทันสมัย โดยเริ่มผลิตเรือดำน้ำติดขีปนาวุธทิ้งตัวรุ่นใหม่ ทดสอบหัวรบยานร่อนความเร็วเหนือเสียง (hypersonic glide vehicle) และลาดตระเวนทางทะเลพร้อมอาวุธนิวเคลียร์เป็นประจำ
การมีอาวุธนิวเคลียร์ทั้งบนบก ในอากาศและในทะเล ทำให้จีนมี “สามเหล่านิวเคลียร์” ( nuclear triad ) ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญของการเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์
จีนไม่เคยเปิดเผยรายละเอียดคลังแสงนิวเคลียร์ แต่ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า จีนมีนโยบายที่จะไม่ใช้โจมตีก่อน และจะมีนิวเคลียร์สมัยใหม่ไว้เพื่อการป้องปรามในระดับต่ำสุด ขณะเรียกร้องให้มหาอำนาจอื่น ๆ รับรองจุดยืนแบบเดียวกัน
ในการแลกเปลี่ยนกึ่งทางการ ระหว่างนักวิชาการสหรัฐฯและเจ้าหน้าที่เกษียณเมื่อไม่นานมานี้ นักวิชาการชาวจีน กล่าวว่า นโยบายของจีนคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และตะวันตกประเมินจีน “เกินจริง