รัสเซีย ถล่มยูเครนครั้งใหญ่ พุ่งเป้าโรงไฟฟ้า
ยูเครนส่อเผชิญฤดูหนาวยากลำบากอีกครั้ง รัสเซียโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่สุดในรอบกว่าสองเดือน รัวมิสไซล์และโดรนพุ่งเป้าถล่มระบบไฟฟ้าทั่วทุกภาค มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย
รัสเซียเปิดฉากโจมตีกรุงเคียฟและเมืองใหญ่หลายแห่งทั่วยูเครน ช่วงเช้ามืดวันที่(17 พฤศจิกายน) ตามเวลาท้องถิ่น การโจมตีด้วยโดรนและมิสไซล์ เกิดขึ้นหลายระลอกและยืดเยื้อหลายชั่วโมงจนถึงช่วงสาย ไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังระงมทั่วประเทศ ขณะระบบป้องกันทางอากาศทำงานอย่างหนัก ในการยิงสกัดกั้นอาวุธของรัสเซีย เหนือท้องฟ้ากรุงเคียฟ โอเดสซา ซาปอริชเชีย มิโค-ลาอิฟ เชอร์คาซี วินนิตเซีย ดนีโปร และ ครีวี รีห์ เสียงไซเรนสงบลงเมื่อเวลาประมาณ 9 นาฬิกา 30 นาทีตามเวลาท้องถิ่น
มีรายงานว่า รัสเซียใช้อาวุธปล่อยหลายชนิด บางส่วนยิงมาจากทะเลดำ รวมถึง ขีปนาวุธร่อน คาลิบร์ ,เซอร์คอน , อิสคันเดอร์ และขีปนาวุธเหนือเสียง คินซาล
ประธานาธิบดี โวโลโดเมียร์ เซเลนสกี้ แจ้งผ่านเทเลแกรม ว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธประมาณ 120 ลูก และโดรนราว 90 ลำ โจมตีทั่วทุกภาคของยูเครน รวมถึงกรุงเคียฟ พุ่งเป้าโครงสร้างพื้นฐานพลังงานของประเทศ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งซ่อมแซมระบบไฟฟ้าในหลายพื้นที่ ผู้นำยูเครนกล่าวด้วยว่า ระบบป้องกันทางอากาศของยูเครน ทำลายอาวุธจากรัสเซียกว่า 140 เป้าหมาย
เฮอร์มาน ฮาลุช-เชนโก รัฐมนตรีพลังงานยูเครน กล่าวว่า โรงงานผลิตและจ่ายไฟฟ้าหลายแห่งตกเป็นเป้าโจมตี บางพื้นที่ต้องตัดระบบจ่ายไฟชั่วคราวเพื่อป้องกันความเสียหาย
ด้าน DTEK บริษัทพลังงานยูเครน แจ้งว่า โรงไฟฟ้าพลังความร้อนหลายแห่ง ได้รับความเสียหายรุนแรงหลังถูกโจมตี
ทางการยูเครนคาดการณ์ก่อนหน้านี้แล้วว่า รัสเซียอาจกลับมาโจมตีระบบไฟฟ้า ในขณะที่ฤดูหนาวกำลังใกล้เข้ามา ประชาชนต้องเตรียมตัวเผชิญฤดูหนาวที่ยากลำบากอีกครั้งหนึ่ง
วิทาลี คลิตเชนโก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ แถลงว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน จากสะเก็ดโดรนตกใส่อาคารที่พักอาศัย 5 ชั้น และเกิดไฟไหม้
เมืองมิโค-ลาอิฟ ทางตอนใต้ เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ถูกโจมตีหนัก มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บอีก 6 คน จำนวนนี้เป็นเด็ก 2 คน อาคารที่พักอาศัย ตึกสูง รถยนต์ ห้างสรรพสินค้า โครงสร้างพื้นฐานได้รับความเสียหาย และเกิดไฟไหม้
ส่วนเมืองท่าโอเดสซา ริมทะเลดำ ที่อยู่ถัดลงไปทางใต้ เกิดไฟดับเป็นวงกว้าง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 1 คน
รัสเซียยังโจมตีโกดังของการรถไฟที่ แคว้น “ดนีโปร-เปตรอฟสก์” เป็นเหตุให้พนักงานการรถไฟที่กำลังทำงานอยู่ เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 3 คน
การโจมตีครั้งใหญ่ของรัสเซีย ทำให้กองทัพโปแลนด์ที่มีพรมแดนติดยูเครนทางตะวันตก ส่งเครื่องบินรบขึ้นไปดูแลน่านฟ้า เปิดใช้ระบบป้องกันทางอากาศภาคพื้น ระบบเรดาร์ตรวจการณ์ และตั้งอยู่ในความเตรียมพร้อมสูงสุด
ครั้งนี้นับเป็นการโจมตีครั้งใหญ่สุด นับจากรัสเซียส่งโดรนและยิงขีปนาวุธกว่า 200 ลูก โจมตีทั่วยูเครน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 7 คน เมื่อ 26 สิงหาคม
#บกข่าวทีวี
