เกาหลีเหนือขู่ขยายกองทัพนิวเคลียร์แบบไร้ขีดจำกัด

ท้าทายทรัมป์! ผู้นำคิมจองอึน ของเกาหลีเหนือขู่จะขยายกองทัพนิวเคลียร์แบบไร้ขีดจำกัดพร้อมทำสงคราม ถือเป็นการขู่ครั้งแรกนับตั้งแต่ทรัมป์ชนะเลือกตั้งเตรียมนั่งเก้าอี้ผู้นำสหรัฐคนต่อไป

AP และ KCNA สื่อทางการเกาหลีเหนือรายงานวันนี้ (จันทร์ที่ 18 พย.) ว่าระหว่างเรียกประชุมเจ้าหน้าที่กลาโหมของเกาหลีเหนือเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผู้นำคิมได้เรียกร้องกองทัพให้เร่งขยายโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ “แบบไร้ขีดจำกัด” เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากสหรัฐ

นอกจากนี้ผู้นำคิมยังประณามสหรัฐที่มีความร่วมมือกับเกาหลีใต้ในการยกระดับระบบสกัดกั้นอาวุธนิวเคลียร์ และยกระดับความร่วมมือด้านการทหาร 3 ฝ่ายกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ซึ่งเกาหลีเหนือมองว่าสหรัฐกำลังสร้าง “นาโตเอเชีย” เพื่อยกระดับการเผชิญหน้าและบั่นทอนเสถียรภาพเอเชีย

ผู้นำเกาหลีเหนือยังวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐที่ให้การสนับสนุนด้านการทหารแก่ยูเครน เพื่อใช้ยูเครนเป็นเครื่องมือในการเผชิญหน้ากับรัสเซียและเพื่อขยายอิทธิพลของกองทัพสหรัฐในยุโรป

การเรียกร้องกองทัพให้ยกระดับโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์แม้จะไม่ใช่ครั้้งแรกของผู้นำคิม แต่ถือเป็นการท้าทายสหรัฐครั้งแรกในช่วงเวลาที่โดนัลด์ ทรัมป์กำลังจะเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐคนใหม่ในเดือนมกราคม 2568 ซึ่งรายงานชี้ว่าเกาหลีเหนือได้ใช้โอกาสในช่วงเวลาที่นานาชาติกำลังมุ่งความสนใจไปที่สงครามรัสเซีย-ยูเครน ในการเร่งพัฒนากองทัพนิวเคลียร์จนแข็งแกร่งและก้าวหน้าไปอย่างมาก จนขณะนี้มีอาวุธที่มีศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์หลายระบบ รวมทั้งขีปนาวุธข้ามทวีปที่สามารถยิงถึงทุกพื้นที่ในสหรัฐ

คิมเคยพบกับทรัมป์ 3 ครั้งในสมัยทรัมป์ 1 แต่การเจรจาสันติภาพล้มเหลวอย่างรวดเร็วหลังจากตกลงกันไม่ได้เรื่องการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐแลกกับการยกเลิกโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ทำให้ผู้นำคิมประกาศล้มโต๊ะเจรจากับสหรัฐและเกาหลีใต้นับแต่นั้นเป็นต้นมา

การที่เกาหลีเหนือยกระดับความร่วมมือและสนับสนุนด้านการทหารกับรัสเซียได้สร้าางความวิตกให้กับเกาหลีใต้เพราะกลัวว่าเกาหลีเหนือจะได้รับการถ่ายโอนเทคโนโลยีด้านการพัฒนาอาวุธจากรัสเซียเป็นการแลกเปลี่ยน

ทันทีที่ทรัมป์ชนะเลือกตั้ง หลายฝ่ายจึงเกิดความหวังว่าทรัมป์และคิมอาจกลับสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้งเหมือนในยุคทรัมป์ 1 แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกลับมองว่าครั้งนี้คงไม่ง่ายนัก เพราะสถานการณ์เปลี่ยนไป การเผชิญหน้าซับซ้อนกว้างกว่าเดิม และเชื่อมโยงกับหลายฝ่ายมากขึ้น รวมทั้งการสู้รบระหว่างยูเครน-รัสเซีย ขณะที่อำนาจการต่อรองของเกาหลีเหนือก็มีมากขึ้นเพราะโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธทันสมัยกว่ายุคทรัมป์ 1 เยอะ และยิ่งถ้ารัฐบาลทรัมป์ 2 มีนโยบายการค้าที่แข็งกร้าวหรือจ้องทำสงครามการค้ากับจีนซึ่งเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่สำคัญของเกาหลีเหนือด้วยแล้ว โอกาสที่เกาหลีเหนือจะผนึกกำลังกับชาติพันธมิตรท้าทายสหรัฐก็ยิ่งสูงขึ้น

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปิดศึก "พระ" ปะทะคารม "แม่ชี" ปมไม่จ่ายค่าไฟ
หนุ่มตีนผีขับรถ ชนพนักงานกวาดถนน สาหัส ซิ่งหนี เมืองดี ล้อมจับ เป่าขึ้น 77 มก.
ชุดปฏิบัติการพิเศษปกครองเมืองคอนสนธิกำลังจับผู้ต้องหายาเสพติดเครือข่ายภาคใต้ยาบ้าเกือบ 2 แสนเม็ด มูลค่า 2 ล้านบาท-เผยเริ่มต้นปฏิบัติการจับกุมผู้เสพผู้ค้ารายย่อยของกลางยาบ้าไม่ถึง 10 เม็ด จนขยายผลจับกุมข้ามจังหวัดรวมยาบ้า เกือบ 1.4 แสนเม็ดพร้อมยึดทรัพย์รถ เก๋ง 1 คัน สั่งขยายผลถึงตัวการใหญ่บงการอยู่เบื้องหลัง
รัสเซียลั่นจะตอบโต้ถ้ายูเครนใช้ ATACMS จริง
"ผบ.ทร." เป็นประธานงานสถาปนา "โรงเรียนนายเรือ" ครบรอบ 118 ปี
รองผบช.ภ.2 แถลงปิดคดี ผู้ต้องหา ฆ่าตัดนิ้ว 'แม่ยายอัยการ' เจ้าตัวสารภาพ ต้องการเงินใช้หนี้ ลงมือเพียงลำพัง
"รมว.สุดาวรรณ" เผย วธ.ร่วมสำนักนายกรัฐมนตรี เตรียมพร้อมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากจีนมาประดิษฐานในไทย วันที่ 4 ธ.ค.67-14 ก.พ.68
"ผู้เสียหาย" ร้องสอบ "เอ๋ คลองหลวง" ท้าวแชร์ไฮโซ ส่อโกงกว่า 12 ล้าน
สหรัฐฯปลดล็อก ATACMS ให้ยูเครน มีผลอย่างไร
“เมืองไทยประกันภัย” เชิญ “ศิลปินแห่งชาติ” ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น