วันที่ 26 กันยายน ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศ เตรียมเลือกตั้ง ส.ส.ในต้นปี 2565 ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร และพล.อ.ประยุทธ์ แยกกันเดินสายลงพื้นที่ ตนเองวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองว่าเมื่อแก้รัฐธรรมนูญบัตร 2 ใบเสร็จแล้ว เปิดสภาฯ มาต้องเร่งจัดทำกฎหมายลูกเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ และจะมี พ.ร.ก.การเงินเข้า ขณะนี้มีการเสนอขยายเพดานกู้เพื่อเอาเงินเพิ่ม พล.อ.ประวิตร และพล.อ.ประยุทธ์ เดินสายถี่ยิบในช่วงนี้
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า อยากให้จับตาดูพรรคการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ เพราะเห็นได้ชัดว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นของพล.อ.ประวิตร และกลุ่มกบฎที่เหนียวแน่น และไม่มีท่าทีสมานฉันท์กับพล.อ.ประยุทธ์ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์จะเล่นการเมืองต่อ ซึ่งเล่นแน่ ไม่หยุด ก็ต้องเป็นพรรคลุงฉิ่ง (นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย) อยากให้จับตาดูว่าทั้งนายกฯ และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย จะเป็นสัญญาณของพรรคลุงฉิ่งในการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่บอกว่า รักกันมาก ดีกันมาก ระหว่าง 3 ป. ไม่เชื่อ เวลานี้ พล.อ.ประวิตร ยังจัดการเรื่องของนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ไม่ได้เลย ทราบข่าวมาว่ายังร้องไห้ไม่หยุดอยู่เลย ถ้าเรื่องแค่นี้จัดการไม่ได้ เรียกร้องให้ท่านลาออกจากการเป็นรองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
เมื่อถามว่า แปลว่าประเมินว่า พล.อ.ประยุทธ์จะพาคณะทิ้ง พล.อ.ประวิตร นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ก็รู้กันอยู่แล้วว่าจะมีพรรคลุงฉิ่ง และการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีทุกครั้งก็มีนายฉัตรชัย ปลัดกระทรวงมหาดไทยเดินขนาบข้างทุกครั้ง ภาพแบบนี้ในทางการเมืองก็เดาได้อยู่แล้ว ที่ผ่านมาไม่มีเหตุการณ์ กบฏธรรมนัส และนายฉัตรชัย ยังไม่พ้นจากหน้าที่ในฐานะปลัดกระทรวงมหาดไทยเท่านั้นเอง ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ไม่มีพรรค จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อได้อย่างไร ใครจะเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ เพราะสุดท้ายแล้วพรรคการเมืองต้องเป็นผู้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรี