AFP และ BBC รายงานว่าหลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนแถลงข่าวในวันนี้ (จันทร์ที่ 18 พย.) เรียกร้องทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งลดอุณหภูมิการเผชิญหน้าลง และหาทางยุติความขัดแย้งด้วยการพูดคุยเจรจา
การแถลงข่าวของจีนมีขึ้นหลังจากที่มีรายงานเมื่อวานนี้ (อาทิตย์ที่ 17 พย.) ว่ารัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดนอนุญาตให้ยูเครนใช้ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธี ATACMS (Army Tactical Missile System) ซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยไกลยิงได้ในระยะทาง 300 กิโลเมตรที่สหรัฐจัดส่งให้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย
ขณะเดียวกัน หลินเจี้ยนได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของเจ้าหน้าที่อียูที่อ้างว่าได้หลักฐานมาว่าโดรนรัสเซียที่ใช้ในการสู้รบกับยูเครนผลิตที่จีน พร้อมยืนยันว่าจีนไม่เคยจัดหาอาวุธร้ายแรงให้กับคู่สงครามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทั้งมีการกำชับควบคุมกองทัพจีนในเรื่องนี้อย่างเข้มงวด และเรียกร้องประเทศที่เกี่ยวข้องอย่ากล่าวหาใส่ร้ายจีนแบบลอยๆไร้พื้นฐานความเป็นจริง
สำหรับปฏิกริยาจากฝั่งรัสเซีย หนังสือพิมพ์รอสิสกาย่า กาเซ็ตต้า ของทางการรัสเซียออกมาตำหนิรัฐบาลไบเดนว่าใช้มาตรการยั่วยุอย่างรุนแรง ที่อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ร้ายแรงตามมา ขณะที่ลีโอนิด สลัตสกี้ สส.รัสเซียจากพรรคเสรีประชาธิปไตยคาดการณ์ว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของไบเดนจะยกระดับการเผชิญหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนวลาดิเมียร์ จาบารอฟ วุฒิสมาชิกรัสเซียเตือนว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่จะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่สาม
ขณะที่หลายฝ่ายกำลังจับตาไปที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินซึ่งยังไม่ออกมาพูดอะไรตั้งแต่เมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้นำรัสเซียเคยออกมาเตือนหลายครั้งก่อนหน้านี้ รวมทั้งในเดือนกันยายนที่ผ่านมาไม่ให้สหรัฐเปิดไฟเขียวให้ยูเครนใช้ ATACMS โจมตีลึกเข้าไปในรัสเซีย เพราะรัสเซียจะถือว่าประเทศสมาชิกนาโตได้เข้ามามีส่วนร่วมโดยตรงในสงครามยูเครน และจะกลายเป็นคู่สงครามกับรัสเซีย