เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 19 พ.ย.67 ที่วัดโพธิ์แก้วประสิทธิ์ ต.สินปูน อ.เขาพนม จ.กระบี่ ทางญาติ ๆ ตั้งบำเพ็ญกุศลศพนายสมคิด หรือเสน่ห์ บัญฑิตกุล อายุ 62 ปี ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว เมื่อวานนี้ ( 18 พ.ย.67 ) อย่างไรก็ตามระหว่างนั้นมีสองสามีภรรยา ซึ่งเป็นเพื่อนของนายเสน่ห์ ผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่งานศพด้วยสีหน้าตาซีดอย่างตื่นตกใจ ก่อนจะเล่าให้ญาติของนายสมคิด ผู้เสียชีวิต ฟังว่า ช่วง 17.00 น.ที่ผ่านมา ตนและภรรยาเดินทางไปเยี่ยมนายสมคิด ที่บ้าน แต่บ้านปิดประตู จึงคิดว่านายสมคิด อาจจะอยู่ในบ้านตนและภรรยา จึงตะโกนเรียกชื่อนายสมคิด 2 – 3 ครั้ง ก่อนมีเสียงตอบรับกลับมา โดยตนยืนยันว่าเป็นเสียงของนายสมคิด อย่างแน่นอน ซึ่งตอนนั้นไม่ทราบว่านายสมคิด เสียชีวิตแล้ว
อย่างไรก็ตามหลังจากตนและภรรยา ตะโกนเรียกนายสมคิด 2 – 3 ครั้ง ที่หน้าบ้านและมีเสียงนายสมคิด ตอบรับกลับออกมา แต่นายสมคิด ยังไม่ยอมเปิดประตูบ้าน ด้วยความสงสัยตนจึงเดินอ้อมไปหลังบ้าน คิดว่านายสมคิด อยู่หลังบ้าน แต่สุดท้ายแล้วประตูหลังบ้านก็ปิดสนิท ก่อนตนจะเจอเพื่อนบ้านของนายสมคิด คนหนึ่งกำลังล้างทำความสะอาดคอกหมู ตนจึงถามหานายสมคิด แต่เพื่อนบ้านคนดังกล่าว กลับตอบกลับมาว่านายสมคิด อยู่ที่วัด ด้วยความสงสัยว่านายสมคิด ไปที่วัดทำไม จึงถามกลับไปว่านายสมคิด ไปบวชเหรอ ซึ่งเพื่อนบ้านกลับบอกว่านายสมคิด เสียชีวิตตั้งแต่เมื่อวาน (18 พ.ย.) แล้ว และตอนนี้ศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัด ยอมรับว่าตอนนั้นตกใจ ขนลุกซู่ขึ้นทันตา จึงรีบเดินทางตรงมาที่วัดดังกล่าว
ในขณะที่ญาตินายสมคิด เล่าอีกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (18 พ.ย.) นายสมคิด ไปเคาะประตูบ้านญาติคนหนึ่งเช่นกัน โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทำให้เพื่อนบ้าน และแขกที่มาร่วมในงานสวดพระอภิธรรมศพศพนายสมคิดจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ กันอย่างกว้างขวาง โดยหลายคนรู้สึกหวาดกลัว ไม่กล้าเดินทางออกจากวัดกลับบ้านคนเดียว เพราะเกรงว่าจะเจอนายสมคิดผู้ตายระหว่างทางคงได้วิ่งหนีกันป่าราบแน่นอน ในขณะที่ผู้เฒ่าในหมู่บ้าน คนหนึ่ง กล่าวว่านายสมคิด อาจจะยังไม่รู้ ว่าตัวเองเสียชีวิตไปแล้ว จึงมีผู้เฒ่าคนหนึ่ง จุดธูป บอกกล่าวว่านายสมคิด เสียชีวิตไปแล้วนะและขอให้ดวงจิตวิณญาณไปสู่สุคติอย่ามา แสดงตัวตนหรือส่งเสียง ให้ชาวบ้านเกิดความหวาดกลัว แบบนี้จะกลายเป็นการเพิ่มบาปติดตัวไปในภพหน้า