RT รายงานว่าโจเซฟ บอร์เรล ผู้แทนหัวหน้าทูตกลุ่มอียูออกมาแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (อังคารที่ 19 พย.) ก่อนเข้าประชุมสภารัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรป โดยบอร์เรลได้กล่าวปกป้องการตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดนที่อนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกล ATACMS (อะ-แท็ก-คึ่มส์) โจมตีรัสเซีย ว่าเป็นการตัดสินใจที่อยู่ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ และถือเป็นข่าวดีสำหรับชาวยูเครน
บอร์เรลกล่าวว่าไบเดนได้มีการพูดคุยหารือในเรื่องนี้เป็นเวลานาน ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดไฟเขียว สำหรับชาติสมาชิกอียูซึ่งมีจุดยืนร่วมกันในการปกป้องยูเครนนั้น บอร์เรลกล่าวว่าแต่ละประเทศมีลักษณะต่างคนต่างตัดสินใจ บางประเทศไฟเขียวไปแล้วอย่างเปิดเผย บางประเทศแอบไฟเขียวแต่ไม่ประกาศออกมา ซึ่งบอร์เรลหวังว่าทุกประเทศอียูจะเดินตามรอยสหรัฐด้วยการพร้อมใจกันอนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่อียูส่งให้
ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสได้บอกกับนักข่าวว่าฝรั่งเศสอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะไฟเขียวยูเครนให้ใช้ขีปนาวุธของฝรั่งเศสหรือไม่
เมื่อวานนี้ (อังคารที่ 19 พย.) ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้ประกาศรับรองหลักการว่าด้วยการใช้อาวุธนิวเคลียร์ฉบับใหม่ซึ่งลดข้อจำกัดและเงื่อนไขลง รวมทั้งมีการแก้ไขเนื้อหาที่เปิดทางให้รัสเซียสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์กับผู้รุกรานที่ครอบครองอาวุธทำลายล้างหรืออาวุธแบบดั้งเดิมที่มีขนาดใหญ่ และยังครอบคลุมไปถึงผู้รุกรานที่แม้ไม่ได้ครอบครองอาวุธทำลายล้าง แต่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศที่ครอบครองนิวเคลียร์ ซึ่งนายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินได้ออกมาเตือนบรรดาผู้นำต่างชาติภายในวันเดียวกัน (อังคารที่ 19 พย.) ว่าให้ศึกษาทบทวนหลักปฏิบัติว่าด้วยการอาวุธนิวเคลียร์ฉบับใหม่ของรัสเซียให้รอบคอบ