ยูเครนใช้ขีปนาวุธอังกฤษ ยิงเข้ารัสเซีย
ยูเครนใช้ขีปนาวุธสตอร์มชาโดว์ของอังกฤษ ยิงเข้ารัสเซียเป็นครั้งแรก ต่อจาก ATACMS ของสหรัฐ ขณะที่สื่ออังกฤษเผย ตอนนี้ยูเครน เหลือ ATACMS ไม่ถึง 50 ลูกแล้ว สอดคล้องกับที่ผู้เชี่ยวชาญคาด โดยสันนิษฐานจากที่ยิง ATACMS หนแรก เพียง 6 ลูกเท่านั้น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กของสหรัฐ รายงานโดยอ้างข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตะวันตกรายหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า ยูเครนได้ยิงขีปนาวุธพิสัยไกล สตอร์มชาโดว์ ที่ได้รับมาจากอังกฤษ เข้าไปในดินแดนของรัสเซียเป็นครั้งแรกแล้ว อย่างไรก็ดี ทางโฆษกของสำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ของดแสดงความเห็นเกี่ยวกับปฏิบัติการดังกล่าว ทั้งนี้ อังกฤษได้อนุญาตให้ยูเครน ใช้ขีปนาวุธดังกล่าวเพื่อโจมตีเป้าหมายภายในรัสเซีย มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว เพียงแต่รอสหรัฐไฟเขียวเท่านั้น
ขณะที่ทางด้าน The Times สื่อของอังกฤษได้รายงานว่า เชื่อกันว่ากองทัพยูเครน ได้รับขีปนาวุธ ATACMS จากสหรัฐ มาเพียงประมาณ 50 ลูกเท่านั้น ซึ่งด้วยจำนวนที่จำกัดนี้ได้ทำให้ผู้บัญชาการทหารของยูเครน ต้องเลือกเป้าหมายที่จะโจมตีภายในรัสเซีย ด้วยความละเอียดรอบคอบ อย่างไรก็ดี ทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ยังไม่ได้มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ เกี่ยวกับตัวเลขที่แน่นอนของการจัดส่ง ATACMS ให้ยูเครน แต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน สำนักข่าว CNA ของสิงคโปร์ ก็ได้เผยแพร่บทความของศาสตราจารย์สเตฟาน วูล์ฟฟ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาความมั่นคงระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม ของอังกฤษ เกี่ยวกับการโจมตีด้วย ATACMS ของสหรัฐ เป็นครั้งแรกของยูเครนว่า การใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลดังกล่าวเพียง 6 ลูก แม้จะรวมกับโดรนจำนวนมาก อาจเป็นข้อบ่งชี้ว่าในตอนนี้ ยูเครนมีขีปนาวุธดังกล่าวอยู่ในคลังค่อนข้างจำกัด และไม่สามารถโจมตีทีละเป็นจำนวนมากได้
นอกจากนี้ วูล์ฟฟ์ยังได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับการโจมตีของยูเครน ด้วย ATACMS ว่า ด้วยเป็นที่ทราบอยู่แล้วว่า ATACMS มีพิสัยยิงประมาณ 300 กิโลเมตร รัสเซียจึงน่าจะย้ายขีดความสามารถที่สำคัญบางส่วน ออกไปนอกระยะการยิงเรียบร้อยแล้ว และอาจจะดำเนินการดังกล่าวไปก่อนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ จะตัดสินใจด้วย ดังนั้น การที่ยูเครนตั้งเป้าไปที่โรงงานในแคว้นเบรียนส์ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของแคว้นคุสก์ ที่มีการต่อสู้กันอยู่ ก็อาจเป็นสัญญาณว่า ยูเครนจะเลือกเป้าหมายที่ดูแล้วจะคุ้มค่า และอยู่ใกล้กับแนวหน้า มาเป็นเป้าหมายเท่านั้น
ทั้งนี้ วูล์ฟฟ์ได้ระบุต่อว่า หากยูเครนวางเดิมพันเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง การโจมตีของ ATACMS ที่มีจำกัด ก็อาจเป็นไปในแบบการยกระดับความรุนแรงอย่างช้าๆ ซึ่งก็อาจจะทำให้สามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีครั้งใหญ่ ที่กำลังเป็นที่หวาดหวั่นกันอยู่ในขณะนี้ได้ แล้วเรื่องนี้ อาจเป็นการไปเพิ่มแรงกดดันอย่างหนักให้กับกองกำลังรัสเซียเสียเอง ที่หากคิดจะตอบโต้ด้วยการจะใช้หลักการด้านนิวเคลียร์ที่แก้ไขใหม่ ก็ดูจะมีความชอบธรรมน้อยลง ดังนั้น โอกาสที่จะเกิดการใช้นิวเคลียร์ตอบโต้ ก็อาจเกิดขึ้นได้น้อยลงด้วย
#บก.ข่าวทีวี
