เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
ข่าวที่น่าสนใจ
จากกรณีมีกระแสข่าวตำรวจเรียกรับเงินภรรยาผู้ต้องหาซึ่งถูกจับกุมคดีค้ายาเสพติดในพื้นที่ สภ.เขาดิน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี จำนวน 500,000 บาทเพื่อแลกกับการปล่อยตัวแถมยังข่มขู่เรียกเก็บเงินเป็นรายเดือน ส่งผลภรรยาของผู้ต้องหา ต้องเข้าแจ้งความเพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย ล่าสุด (22 พ.ย.67) ผู้สื่อข่าวเดินเข้าสอบถาม พ.ต.ท.สมบัติ ครุฑธา รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เขาดิน เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น
โดย พ.ต.ท.สมบัติ ให้ข้อมูลว่า นางอารีย์ ชาว ต.ชำแระ อ.โพธาราม ได้มาร้องขอความเป็นธรรม พร้อมขอลงประจำวันใว้เป็นหลักฐานแล้วโดยแจ้งว่า นายธวัชชัย ผู้เป็นสามีแต่อยู่กันคนละบ้านกัน ได้เดินทางมารับเพื่อไปหาเพื่อนที่บ้านเลขที่ 48/1 หมู่ 12 ต.เขาชะงุ้ม อ.โพธาราม แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำราวจ ตชด.137 เข้าจับกุม ก่อนตั้งข้อหามียาเสพติด (ยาบ้า) ไว้ครอบครอง เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนควบคุมตัว นางอารีย์ และสามี ไปสอบปากคำเพิ่มเติทที่กองร้อย ตชด.137 ใน อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
นางอารีย์ ให้การว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับพฤติกรรมของสามี แต่มีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนายหนึ่งได้เจรจาเรียกเงิน 5 แสนบาทเพื่อแลกกับการปล่อยตัว ตอนนั้น นางอารีย์ มีเงินสดติดตัวอยู่ 8 หมื่นบาท โดยสวมใส่สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท และแหวนทองอีก 3 วง น้ำหนักรวม 5 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงให้ นางอารีย์ ไปถอดทรัพย์สินที่อยู่ในตัว แล้วให้นำไปวางไว้ที่รถเก๋งแต่ประตูล๊อก จึงให้ไปวางใว้ที่ท้ายรถกระบะที่จอดไว้ในโรงรถแทน ก่อนที่จะปล่อยตัว กลับบ้านมา
ส่วนสามีของ นางอารีย์ ถูกดำเนินคดีในข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยมีใว้เพื่อจำหน่าย, เสพยาเสพติดให้โทษโดยกระทำเพื่อการค้า และมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 โดยผิดกฎหมาย ปรากฏว่าหลัง นางอารีย์ กลับถึงบ้าน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้โทรศัพย์ไปขอเก็บเงินรายเดือนเพราะรู้ว่าปล่อยเงินกู้ พร้อมข่มขู่ว่าถ้าไม่ให้จะตามไปเอาเรื่องถึงบ้าน ส่งผลให้ นางอารีย์ เกิดความกลัวจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้นำตัว นายธวัชชัย หรือกอล์ฟ ลิ้มประเสริฐ อายุ 40 ปี มาสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งพบว่าในบันทึกการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.137 ไม่ตรงกับคำให้การของ นายธวัชชัย ทั้งพฤติกรรมการล่อซื้อ และการจับกุม รวมทั้งจำนวนยาบ้าที่ตรวจยึดได้ซึ่งลงในบันทึกจับกุมแค่ 2,000 เม็ด ส่วนอีก 1,000 เม็ดที่ตรวจพบในรถของผู้ต้องหา ก็ไม่ได้ลงไว้ในบันทึกการจับกุมด้วย
ด้าน พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี กล่าวว่า หลังได้รับรายงาน ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สภ.เขาดิน สอบปากคำผู้เสียหายในประเด็นต่าง ๆ ให้ครบถ้วนที่ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยหากพบว่าเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมกระทำการดังกล่าวจริง ก็จะให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมโดยทันที แล้วให้ส่งคำให้การไปยัง สภ.สวนผึ้ง ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนที่จะมีความเห็นทางคดีต่อไป โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น