ปูติน ขู่โจมตีประเทศตะวันตกโดยตรง
คำต่อคำ- ปูตินแถลงผ่านถ่ายทอดสดทีวีเมื่อคืนนี้ ส่งสารท้าทายตะวันตก ย้ำรัสเซียมีสิทธิโจมตีประเทศที่ยูเครนใช้อาวุธประเทศนั้น โจมตีดินแดนของรัสเซีย
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ไอ้ออกมากล่าวสุนทรพจน์ ทางสถานีโทรทัศของทางการเมื่อคืนวันพฤหัสบดี ขณะที่ความขัดแย้งที่ดำเนินมาเกือบ 3 ปีทวีความรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง โดยยูเครนได้ยิงขีปนาวุธที่สหรัฐและอังกฤษจัดหามาให้ โจมตีดินแดนของรัสเซียเป็นครั้งแรก และผู้นำรัสเซียถึงการทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยกลางรุ่นใหม่ใส่ยูเครน พร้อมแย้มว่า ขีปนาวุธดังกล่าวสามารถปลดปล่อยอาวุธนิวเคลียร์ได้ อีกทั้งเตือนด้วยว่า ความขัดแย้งกำลังเข้าข่ายสงครามโลก และรัสเซียพร้อมเผชิญหน้ากับยูเครนและตะวันตกทุกสถานการณ์
ปูตินอดีตสายลับเคจีบีได้ข่มขู่ตะวันตกซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดความขัดแย้ง แต่คำเตือนที่ออกเมื่อเย็นวันพฤหัสบดีเป็นหนึ่งในคำเตือนที่ชัดเจนและตรงไปตรงมาที่สุดของเขา โดยมาในช่วงเวลาสำคัญของการสู้รบ
ปูตินกล่าวว่า นับจากนี้เป็นต้นไป [การที่ยูเครนโจมตีดินแดนของรัสเซียด้วยอาวุธที่ตะวันตกจัดหาให้] ตามที่เราได้เน้นย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงที่ผ่านมา ความขัดแย้งระดับภูมิภาคในยูเครน ซึ่งถูกยั่วยุโดยตะวันตก กำลังเข้าข่ายความขัดแย้งระดับโลก เราเลือกและพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทั้งหมดด้วยสันติวิธีเสมอมา แต่เราก็พร้อมเสมอสำหรับเหตุการณ์ที่ยกระดับ หากใครยังคงสงสัยเรา (ว่าจะทำอะไร) นั่นเป็นเรื่องเปล่าประโยชน์ เพราะเราจะมีคำตอบเสมอ
เขากล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ขีปนาวุธยุทธวิธี ATACMS จำนวน 6 ลูกโจมตีฐานทัพทหารในดินแดนของสหพันธรัฐรัสเซียในแคว้น เบรียนสค์ และ คูสค์ และเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ระบบ Storm Shadow ที่ผลิตในอังกฤษและสหรัฐโจมตีฐานทัพในภูมิภาค เบรียนสค์ และ คูสค์ ด้วยขีปนาวุธ ระบบป้องกันภัยทางอากาศของเราได้ขับไล่การโจมตีเหล่านี้ออกไป ทำให้ศัตรูไม่สำเร็จตามเป้าหมาย เกิดไฟไหม้ที่คลังกระสุนในเบรียนส์ สาเหตุเกิดจากเศษขีปนาวุธที่ตกลงมา การโจมตีถูกระงับลง ไม่มีการสูญเสียหรือความเสียหายร้ายแรงใดๆ
และว่า เพื่อตอบโต้การใช้อาวุธพิสัยไกลของสหรัฐและอังกฤษ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน กองกำลังติดอาวุธของรัสเซียได้เปิดฉากโจมตีโรงงานแห่งหนึ่งของนิคมอุตสาหกรรมอาวุธของยูเครน ภายใต้เงื่อนไขการสู้รบ ได้มีการทดสอบระบบขีปนาวุธพิสัยกลางรุ่นใหม่ที่สุดของรัสเซีย ซึ่งในกรณีนี้เป็นขีปนาวุธพิสัยไกลความเร็วเหนือเสียงที่ไม่ใช่นิวเคลียร์ วิศวกรขีปนาวุธของเราตั้งชื่อมันว่า ‘โอเรชนิค’ และการทดสอบประสบความสำเร็จ
เราถือว่า เรามีสิทธิที่จะใช้อาวุธของเราโจมตีฐานทัพของประเทศที่อนุญาตให้ใช้อาวุธของพวกเขาโจมตีฐานทัพของเรา และในกรณีที่มีการกระทำก้าวร้าวรุนแรงขึ้น เราจะตอบโต้อย่างเด็ดขาดในลักษณะเดียวกัน ผมขอย้ำว่า เรากำลังทดสอบระบบขีปนาวุธโอเรชนิคในสนามรบ เพื่อตอบสนองต่อการกระทำก้าวร้าวของประเทศสมาชิกนาโตต่อรัสเซีย คำถามเกี่ยวกับการติดตั้งขีปนาวุธพิสัยกลางและพิสัยใกล้เพิ่มเติมนั้น เราจะเป็นผู้ตัดสินใจ ขึ้นอยู่กับการกระทำของสหรัฐและบริวาร ส่วนเป้าหมายต่อไปที่จะถูกโจมตี เพื่อใช้ทดสอบระบบขีปนาวุธล่าสุดเพิ่มเติม เราจะเป็นผู้กำหนดโดยพิจารณาจากภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหพันธรัฐรัสเซีย ปูตินระบุ
อีกทั้งเสริมว่า ผมขอแนะนำให้ผู้นำของประเทศต่างๆ ที่วางแผนจะใช้กองกำลังทหารโจมตีรัสเซียพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจัง แน่นอนว่า เมื่อเราเลือกเป้าหมายที่จะโจมตีตามความจำเป็นและเป็นมาตรการตอบโต้ เช่นการโจมตีด้วยโอเรชนิค ในดินแดนยูเครน เราจะแจ้งเตือนพลเรือนล่วงหน้า และขอให้พลเมืองของประเทศที่เป็นมิตรที่อยู่ที่นั่นออกจากเขตอันตราย เราจะทำเช่นนี้ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมอย่างเปิดเผย โดยไม่เกรงกลัวการตอบโต้จากศัตรู
ทำไมถึงไม่ต้องกลัวล่ะ เพราะปัจจุบันไม่มีอาวุธใดต่อต้านโอเรชนิคได้ มันโจมตีเป้าหมายด้วยความเร็ว 10 มัค นั่นคือความเร็ว 2.5-3 กิโลเมตรต่อวินาที ระบบป้องกันภัยทางอากาศที่มีอยู่ในปัจจุบันทั่วโลก และระบบป้องกันขีปนาวุธที่ถูกสร้างขึ้นโดยอเมริกาและยุโรปไม่สามารถสกัดกั้นขีปนาวุธดังกล่าวได้ ผมขอเน้นย้ำอีกครั้งว่าไม่ใช่รัสเซีย แต่เป็นสหรัฐที่ทำลายระบบความมั่นคงระหว่างประเทศ และสหรัฐยังคงต่อสู้และยึดติดกับความเป็นจ้าวโลกต่อไป ทำให้ทั้งโลกเข้าสู่ความขัดแย้ง
เรากำลังพัฒนาขีปนาวุธพิสัยกลางและพิสัยใกล้เพื่อตอบสนองต่อแผนของสหรัฐในการผลิตและติดตั้งขีปนาวุธพิสัยกลางและพิสัยใกล้ในยุโรปและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เราเชื่อว่าสหรัฐได้ทำผิดพลาด ด้วยการทำลายสนธิสัญญาการขจัดขีปนาวุธพิสัยกลางและพิสัยใกล้ในปี 2562 โดยอ้างข้ออ้างที่ไร้สาระ
ปูตินทิ้งท้ายว่า วันนี้ สหรัฐไม่เพียงแต่ผลิตอาวุธดังกล่าวเท่านั้น แต่จากที่เราเห็น พวกเขากำลังดำเนินการถ่ายโอนระบบขีปนาวุธขั้นสูงไปยังภูมิภาคต่างๆ ของโลก รวมถึงยุโรปด้วย นอกจากนี้ พวกเขากำลังดำเนินการฝึกซ้อมการใช้งานด้วย ผมต้องการเน้นย้ำอีกครั้งว่า การใช้อาวุธดังกล่าวโดยศัตรู ไม่ส่งผลต่อการรบ [การรุกของรัสเซียในยูเครน] กองกำลังของเราได้เคลื่อนพลไปตามแผนอย่างประสบความสำเร็จ ภารกิจทั้งหมดที่เราตั้งไว้จะสำเร็จลุล่วง
#บก.ข่าวทีวี