ไทมส์ ออฟ อิสราเอล สื่อในอิสราเอล รายงานว่า สภาความมั่นคงแห่งชาติ ยกระดับคำเตือนเรื่องการเดินทางในประเทศไทย ขึ้นสู่ระดับ 2 เมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) โดยอ้างถึงภัยคุกคามต่อชาวอิสราเอลที่ยังคงมีอยู่
นี่เป็นการปรับปรุงประกาศเตือนชาวอิสราเอลในไทย ในเวลาเพียงสองสัปดาห์ หลังจากเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน สภาความมั่นคงฯเตือนชาวอิสราเอลในไทยครั้งแรก ให้เพิ่มความระมัดระวังตัวและคอยติดตามประกาศเตือนอยู่เสมอ เนื่องจากภัยคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้น ในประกาศล่าสุด ย้ำว่า ภัยคุกคามนั้น “ไม่ได้เพิ่มมากขึ้น” แต่ยังคงมีอยู่ และสภาความมั่นคงต้องการเพิ่มความชัดเจนและความหนักแน่นในประกาศเตือน
ระดับ 2 คือการแนะนำพลเมือง เพิ่มมาตรการระมัดระวังตัว แต่ไม่ใช่การเรียกร้องให้หลีกเลี่ยงการเดินทาง หรือออกจากประเทศนั้น มีข้อแนะนำให้ชาวอิสราเอลหลีกเลี่ยงเข้าร่วมงานขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล โดยเฉพาะงานที่มีการประกาศล่วงหน้า หรือย่านสถานบันเทิง และการรวมตัวที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล ควรแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในพื้นที่ หากพบกิจกรรมที่เป็นปฏิปักษ์กับชาวอิสราเอล ปกปิดการแสดงตนว่าเป็นชาวอิสราเอล หลีกเลี่ยงเปิดเผยพิกัดและแผนเดินทางบนหน้าสื่อสังคมออนไลน์ และหลีกเลี่ยงการพูดคุยเกี่ยวกับการเป็นทหาร สถานการณ์ความมั่นคงในอิสราเอล หรือโพสต์เนื้อหาที่เกี่ยวข้องบนสื่อสังคมออนไลน์
คำเตือนแรกเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน มีขึ้นขณะมีรายงานว่า ตำรวจไทยเฝ้าระวังแผนก่อการร้ายพุ่งเป้างาน ฟูลมูน ปาร์ตี้ ในวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่เกาะพงัน ซึ่งมักดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลจำนวนมาก โดยเป็นคำเตือนท่ามกลางข้อกล่าวหาในเวลานั้นว่า อิหร่านสนับสนุนแผนการโจมตีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลในศรีลังกา แต่อิสราเอลได้ยกเลิกประกาศเตือนภัยร้ายแรงในศรีลังกาแล้วเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน
คำเตือนล่าสุดเรื่องการเดินทางในไทย มีขึ้นหลังจากพบศพ ซวี โคแกน แรบไบ หรือบาทหลวงยิวจากองค์กรชาบัด องค์กรของชาวยิวฮาสิดิกเคร่งศาสนาที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก
แรบไบ โคแกน วัย 28 ปี เป็นผู้แทนคนหนึ่งขององค์กรชาบัด ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE เขาหายตัวไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน ก่อนพบเป็นศพที่เมือง อัล เอน ใกล้ชายแดนโอมาน ห่างจากเมืองหลวงยูเออี 150 กิโลเมตร ในเช้าวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน ล่าสุด กระทรวงมหาดไทยยูเออี แถลงว่า ได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 3 คน ที่อาจเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวและฆาตกรรม
อิสราเอลเฝ้าระวังสูงสุดต่อความพยายามของอิหร่าน ที่อาจทำร้ายชาวยิวทั่วโลกผ่านทางกลุ่มตัวแทน หลังจากทั้งสองประเทศ เปิดฉากโจมตีทางทหารตอบโต้กันโดยตรงเป็นครั้งแรกในปีนี้ สื่ออิสราเอลบางสำนัก รายงานอ้างแหล่งข่าว พาดพิงอิหร่านมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารโคแกน ด้วยการว่าจ้างชาวอุซเบคให้ลงมือ แต่สถานทูตอิหร่านในยูเออี ปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ประณามว่า การสังหารโคแกน เป็นการก่อการร้ายภายใต้แนวคิดต่อต้านชาวยิว และจะทำทุกวิถีทางใ นการนำตัวคนผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
