ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบดำเนินคดี “กลุ่มน้ำไม่อาบ” ทุกมิติ พร้อมเอาผิดตามหลักฐานคลิปที่ปรากฏ
ข่าวที่น่าสนใจ
26 พ.ย.2567 พลตำรวจโทสำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มน้ำไม่อาบ ครับเสี่ยรถจักรยานยนต์รวมตัวไปท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และมีพฤติกรรมการขับขี่รถจักรยานยนต์ผิดกฎจราจร รวมถึงการแข่งขันรถในทาง โดยเบื้องต้นทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งให้ตำรวจในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในจังหวัดเพชรบูรณ์ ตรวจสอบการกระทำความผิด โดยใช้หลักฐานจากภาพคลิป จากประชาชนและกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี โดยได้รับแรงงานจากผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ขณะนี้มีการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดไปแล้วกว่า 1,000 คน
พลตำรวจโทสำราญ ยืนยันว่า จะดำเนินการเอาผิดทุกมิติ ตั้งแต่กฎหมายพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ 2565 ไปจนถึงสืบสวนเกี่ยวกับร้านค้าที่ร่วมสนับสนุนในการกระทำความผิดด้วย ส่วนผู้ที่มีพฤติกรรมพยายามขับขี่รถจักรยานยนต์รถยนต์แข่งขันในทาง โดยไม่สวมป้ายทะเบียนจะต้องพิสูจน์รถ ตัวบุคคล ตามจับมาดำเนินคดี นอกจากกฎหมายจราจรแล้วอาจจะต้องมีการสืบสวนเกี่ยวกับเรื่อง ประวัติอาชญากรรม และการกระทำความผิดข้อกฎหมายอื่น ๆ ด้วย
ส่วนมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิด ที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดตำรวจไม่ดำเนินการ อยากเร่งด่วนนั้น พลตำรวจโทสำราญ เปิดเผยว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนโยบายไม่กระทำการปิดล้อม หรือไล่จับกุมเหมือนในอดีต เนื่องจากอาจจะส่งผลในเรื่องของการเกิดอุบัติเหตุจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บที่เสียชีวิตได้ แต่จะเน้นในการสืบหาพยานหลักฐานเอาผิดตามภายหลัง ตามหลักฐานที่พบ รวมไปถึงอาจจะมีการเชิญตัวผู้ที่เป็นแกนนำกลุ่มในการชักชวนในการรวมตัว มาทำความเข้าใจในเรื่องของการรวมตัวไปท่องเที่ยวในอนาคต ยอมรับว่าการรวมตัวไปท่องเที่ยวจำนวนมาก เป็นเรื่องที่สามารถกระทำได้ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย
ซึ่งจากผลการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดในข้อหาพยายามแข่งรถในทาง หรือขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก ที่ผ่านมาศาลมีคำสั่งสูงสุดถึงขั้นริบรถ และสั่งกักขังหรือจำคุก ผู้กระทำความผิดไปแล้วจำนวนมาก จึงยกเป็นข้อกฎหมายที่จะดำเนินการเอาผิดกลุ่มคนเหล่านี้ในอนาคต จึงอยากให้หยิบยกเป็นตัวอย่างสะท้อนไปถึงผู้ที่คิดจะกระทำความผิดในอนาคตด้วย
และฝากประชาสัมพันธ์สิ่งพี่น้องประชาชน หากพบการกระทำความผิดคลิปกล้องหน้ารถ หรือจากโทรศัพท์มือถือก็เป็นอีกหนึ่งหลักฐานสำคัญที่ตำรวจจะใช้ดำเนินคดี ซึ่งหากมีหลักฐานสามารถส่งมาร้องเรียนกับสถานีตำรวจในพื้นที่ หรือตามสื่อออนไลน์ต่างๆที่เปิดช่องทางให้รับเรื่องร้องเรียนเอาไว้ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น