เมื่อวันที่ 24 – 25 พฤศจิกายน 2567 ณ จังหวัดกระบี่ – มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ร่วมกับ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มูลนิธิอนุรักษ์พันธุกรรมพืชสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ กองทัพเรือ (กองทัพเรือภาคที่ 3) และจังหวัดกระบี่ ร่วมกันจัด“โครงการ รวมใจภักดิ์รักษ์ทะเลไทยใสสะอาด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาส มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” โดยมี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานกรรมการมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฯ พร้อมด้วย นายชิดชนก สุขมงคล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พลเรือโท สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 นายพรชัย จุฑามาศ มูลนิธิอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (อพ.สธ.) นายอังกูร ศีลาเทวกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายสมพันธ์ จารุมิลินท รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัดและประธานกรรมการดำเนินงานโครงการ รวมใจภักดิ์รักษ์ทะเลไทยใสสะอาด เฉลิมพระเกียรติฯ มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) นักเรียน โรงเรียนบ้านคลองแห้ง โรงเรียนบ้านช่องพลี และประชาชน ตำบลอ่าวนาง ฯลฯ เข้าร่วมพิธี ณ บริเวณหาดนพรัตน์ธารา ในอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี โดยมีพิธีมอบทุ่นผูกเรือ จำนวน 72 ทุ่น เพื่อป้องกันการทิ้งสมอเรือที่จะไปทำลายแนวปะการัง ให้แก่กรมอุทยานแห่งชาติฯ กิจกรรมปลูกต้นไม้ เก็บขยะชายหาด และการแสดงนิทรรศการจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ มูลนิธิอนุรักษ์พันธุกรรมพืชสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต และประกอบพิธีปล่อยทุ่นบนเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ต.111 บริเวณหน้าอ่าวมาหยา เกาะพีพี พร้อมเยี่ยมติดตามการติดตั้งทุ่นจอดเรือ ทุ่นไข่ปลา การเก็บขยะใต้ทะเลและปลูกต้นไม้ที่บริเวณอ่าวมาหยา
นายชิดชนก สุขมงคล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่หลากหลาย โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ที่เป็นสถานที่จัดกิจกรรมในครั้งนี้ มีความสำคัญในฐานะพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเลที่โดดเด่น ครอบคลุมพื้นที่ทั้งทางบกและทางทะเล โดยมีพื้นที่โดยรวมกว่า 242,437 ไร่ หรือ 387 ตารางกิโลเมตร ประกอบกับชายหาดที่มีความงดงามมีทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใส อุดมสมบูรณ์ด้วยประการังสีสดใสและสิ่งมีชีวิตทางทะเลที่มีคุณค่า อุทยานฯ แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญระดับโลกเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการรักษาความหลากหายทางชีวภาพ และสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่นจากการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน โครงการในวันนี้เป็นการวางทุ่นจอดเรือ ซึ่งเป็นการช่วยทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลได้เป็นอย่างดี สามารถเป็นทุ่นจอดเรือให้กับเรือของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมธรรมชาติทางทะเลในบริเวณนั้น ถ้าเรือมาทอดสมอในบริเวณที่มีปะการังก็ไปทำลายทรัพยากรใต้ทะเล ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติได้ การจัดงานครั้งนี้นอกจากจะสร้างความตระหนักรู้ในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลแล้ว ยังเป็นการร่วมกันอนุรักษ์ท้องทะเล พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่ไปอย่างยั่งยืน
นายสมพันธ์ จารุมิลินท ประธานกรรมการดำเนินงานโครงการ รวมใจภักดิ์รักษ์ทะเลไทยใสสะอาด เฉลิมพระเกียรติฯ มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า “การดําเนินงานโครงการฯ ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทะเลไทย โดยร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายช่วยกันฟื้นฟูและอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในแนวปะการัง บริเวณเกาะพีพีเล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต้องมีการบริหารจัดการที่เหมาะสม สมดุลระหว่างการท่องเที่ยวกับการอนุรักษ์ เพราะมีผลกับเศรษฐกิจของท้องถิ่นชุมชน และความเสียหายอันจะเกิดกับทรัพยากร อีกทั้งเป็นการสร้างกระแสสังคมเพื่อปลุกจิตสํานึกของประชาชนและเยาวชน ให้เห็นถึงความสําคัญของการอนุรักษ์แนวปะการังและท้องทะเลไทย”
สำหรับการวางทุ่นผูกเรือ บริเวณเกาะพีพีเล เป็นทุ่นจอดเรือ สีแดง ขนาดกลาง จำนวน 72 ลูก และวางทุ่นไข่ปลาจำนวน 500 ลูก หน่วยงานหลักในการปฎิบัติการติดตั้งทุ่นผูกเรือในพื้นที่ดำเนินการ คือ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค3 และกองทัพเรือภาคที่3 โดยปีนี้นับเป็นวาระอันสำคัญยิ่งที่พสกนิกรชาวไทย จะได้ร่วมกันจัดโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน ให้สถิตอยู่ในความทรงจำของประชาชนตลอดไป มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จึงนำแผนงานมาเป็นแนวทางในการจัดทำโครงการเฉลิมพระเกียรติในโอกาสมหามงคลนี้เป็นกรณีพิเศษ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการรวมพลังในการที่จะช่วยกันอนุรักษ์ทะเลไทย