AP, BBC และ CNN รายงานว่านายเฮอร์แมน ฮาลูชเชนโก รัฐมนตรีพลังงานยูเครนได้แถลงผ่านเฟสบุ๊คในวันนี้ (พฤหัสที่ 28 พย.) เปิดเผยว่ารัสเซียได้ระดมยิงขีปนาวุธและส่งโดรนราว 188 ลูก รวมทั้งขีปนาวุธนำวิถีคาลิเบอร์ โจมตีหลายเมืองในพื้นที่ภาคกลางและตะวันตกทั่วยูเครนเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา ทำให้เกิดเสียงไซเรนเตือนภัยดังสนั่นทั้งประเทศ
รายงานเผยว่าการโจมตีเกิดขึ้นที่กรุงเคียฟ, คาร์คีฟ, คเมลนิตสกี, ลุตส์และลวีฟ โดยเป้าหมายหลักอยู่ที่โรงไฟฟ้าและระบบโครงสร้างพลังงานสำคัญๆ ส่งผลให้เกิดไฟดับเป็นบริเวณกว้างกระทบบ้านเรือนประชาชนกว่า 1 ล้านหลัง โดยที่แคว้นริฟเน่ไฟดับกว่า 2 แสน 8 หมื่นหลัง, แคว้นโวลีนไฟดับกว่า 2 แสน 1 หมื่น 5 พันหลังและที่แคว้นลวิฟ ทางตะวันตกสุดติดพรมแดนโปแลนด์ไฟดับมากกว่า 5 แสนหลัง ส่งผลให้ทางการต้องเปิดระบบไฟฉุกเฉินเกือบทั่วประเทศ พร้อมสั่งให้นักเรียนเรียนทางออนไลน์อยู่ที่บ้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้มีคำสั่งให้เปิดศูนย์หลบภัยเพื่อให้ประชาชนเข้าไปชาร์จโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ
โดยที่กรุงเคียฟนั้น ไซเรนเตือนภัยได้ดังอยู่นานถึง 9 ชั่วโมง ทำให้ประชาชนต้องเข้าไปหลบอยู่ตามสถานีรถไฟใต้ดินซึ่งทำเป็นศูนย์หลบภัย อย่างไรก็ตามระบบป้องกันทางอากาศยูเครนสามารถสกัดขีปนาวุธเอาไว้ได้ และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด ขณะที่วิศวกรกำลังเร่งซ่อมแซมความเสียหาย
การโจมตีโรงไฟฟ้าทั่วยูเครนมีขึ้นท่ามกลางความวิตกว่ารัสเซียจงใจที่จะทำลายโครงสร้างด้านพลังงานเพื่อตัดไฟในช่วงฤดูหนาว