ปูติน ขู่ยิงมิสไซล์รุ่นใหม่ ถล่มเมืองหลวงยูเครน
ผู้นำรัสเซีย ขู่ใช้ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกรุ่นใหม่ โจมตีศูนย์กลางการตัดสินใจในกรุงเคียฟ หลังจาก รัวขีปนาวุุธ-โดรน ถล่มเครือข่ายพลังงานของยูเครนย่อยยับ ไฟดับกระทบประชาชนกว่าล้านคนอวยทรัมป์เก่ง เชื่อมือแก้ปัญหาได้
ระหว่างแถลงข่าวที่กรุงอัสตานา เมืองหลวงคาซัคสถาน ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวว่า รัสเซียกำลังเลือกเป้าหมายในยูเครน และไม่ตัดความเป็นไปได้ ที่จะใช้ “โอเรชนิก” ขีปนาวุธทิ้งตัวความเร็วเหนือเสียงรุ่นใหม่ โจมตีกองทัพ ศูนย์อุตสาหกรรมทางทหาร หรือศูนย์การตัดสินใจทางทหาร รวมถึงกรุงเคียฟ หลังจากเพิ่งยิงขีปนาวุธกว่า 90 ลูกและโดรนประมาณ 100 ลำ ถล่มยูเครนหลายระลอกเป็นเวลากว่า 9 ชั่วโมง ในช่วงคืนวันที่ 27 เข้าสู่วันที่ 28 พฤศจิกายนตามเวลาท้องถิ่น
ปูติน กล่าวว่า การโจมตี 17 เป้าหมายเมื่อวาน เป็นการตอบโต้ที่ยูเครน ยังคงใช้ขีปนาวุธยุทธวิธีพิสัยไกล อะแท็กซิมส์ (ATACMS ) และ สตอร์ม ชาโดว์ โจมตีเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียถูกบังคับให้ต้องทดสอบโอเรชนิก ในสถานการณ์รบ หลังจากยูเครนโจมตีรัสเซียก่อนด้วย อะแท็กซิมส์ พร้อมอวดว่า ขีปนาวุธรุ่นใหม่ที่เดินทางด้วยความเร็ว 3 กิโลเมตรต่อวินาทีนั้น สามารถที่จะทำให้อะไร ๆ ที่ถูกโจมตี “กลายเป็นผุยผง” / หากยิงหลายลูกในเวลาเดียวกัน อานุภาพจะเทียบเท่านิวเคลียร์” หรืออุกกาบาตตก เกิดความร้อนใกล้เคียงพื้นผิวดวงอาทิตย์ ทั้งอ้างว่า รัสเซียรู้ดีว่า ยูเครนได้อาวุธพิสัยไกลมาเท่าไหร่และอยู่ตรงไหน
การถล่มของรัสเซียเมื่อวาน มีขึ้นขณะที่ชาวยูเครน กำลังเตรียมพร้อมรับมือกับฤดูหนาวอย่างยากลำบาก เพราะโครงสร้างพลังงานเสียหายอยู่แล้วจากสงครามยืดเยื้อเกือบ 3 ปี และยกระดับขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงหลายวันมานี้ เมื่อทั้งสองฝ่ายผลัดกันงัดอาวุุธใหม่ ๆ มาใช้สร้างความได้เปรียบ ก่อน โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนต่อไปในวันที่ 20 มกราคม ซึ่งระหว่างแถลงข่าว ปูติน กล่าวยกยอทรัมป์ ว่า เป็นคนฉลาดปราดเปรื่อง มีประสบการณ์ และเขาเชื่อว่าทรัมป์จะสามารถแก้ปัญหาได้ โดยไม่ได้ลงรายละเอียด
สำนักข่าว RIA ของทางการรัสเซีย รายงานโดยอ้างคำพูด ปูติน ด้วยว่า มอสโกจะไม่ยอมให้ยูเครนได้รับอาวุธนิวเคลียร์เป็นอันขาด หากทำเช่นนั้น รัสเซียจะใช้อาวุธทำลายล้างทุกชนิดที่มีในคลังแสงตอบโต้ หลังจากนิวยอร์ก ไทมส์ รายงานเมื่อสัปดาห์ก่อน ว่า เจ้าหน้าที่ตะวันตกเสนอแนะให้มอบอาวุธนิวเคลียร์แก่ยูเครนเพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคง ก่อนประธานาธิบดีโจ ไบเดน พ้นตำแหน่ง
ทางการยูเครนแจ้งว่า การโจมตีครั้งใหญ่ของรัสเซียรอบล่าสุด กินเวลานานกว่า 9 ชั่วโมงครึ่ง ก่อความเสียหายใน 14 แคว้น ทางตะวันตกกระทบหนักสุด ประชาชนกว่า 5 แสนคนในแคว้น ลวิฟ , 2 แสน 8 หมื่นคนในแคว้น ลิฟเน และอีก 2 แสน 1 หมื่น 5 พันคนใน แคว้น โวลิน ไม่มีไฟฟ้าใช้ กรุงเคียฟตกเป็นเป้าหมายการโจมตีด้วย แต่ยูเครนระบุว่า สามารถสกัดอาวุธจากรัสเซียได้ทั้งหมด
ด้าน ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ แห่งยูเครน กล่าวว่า รัสเซียยังใช้ระเบิดพวง หรือ คลัสเตอร์ บอมบ์ โจมตีพุ่งเป้าโครงสร้างพลังงานและพลเรือนในครั้งนี้ด้วย ระเบิดชนิดนี้ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ด้านพลังงาน เผชิญความยากลำบากมากขึ้น ในการรับมือกับผลกระทบจากการโจมตี
เซเลนสกี้ ระบุว่า รัสเซียยกระดับสงครามด้วยกลยุทธ์ก่อการร้ายอย่างน่ารังเกียจ
DTEK บริษัทพลังงานเอกชนใหญ่สุดในยูเครน ระบุว่า ครั้งนี้เป็นการถล่มโครงสร้างพลังงานครั้งใหญ่ เป็นรอบ 11 นับจากเดือนมีนาคม โรงงานพลังงานความร้อนของบริษัท เสียหายหนัก ทำให้ไฟดับ หากรัสเซียเดินหน้าโจมตีโครงข่ายพลังงานขนานใหญ่เช่นนี้ต่อไป เหมือนกับฤดูหนาวปีก่อน ๆ ยูเครนจะต้องเผชิญกับความยากลำบากในหลายเดือนข้างหน้า
#บก.ข่าวทีวี