นายกรัฐมนตรี อุล์ฟ คริสเตอร์สัน แถลงเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนว่า สวีเดนได้ส่งคำร้องอย่างเป็นทางการถึงรัฐบาลจีน ขอให้ร่วมมือกับทางการสวีเดน สอบสวนเหตุเคเบิลใต้น้ำขาดสองเส้น ในทะเลบอลติค เมื่อวันที่ 17 และ 18 พฤศจิกายน โดยเรือสินค้าติดธงจีนชื่อ “อี้ เผิง-3” (Yi Peng-3) ตกเป็นผู้ต้องสงสัย เนื่องจากแล่นผ่านสายเคเบิลในช่วงเวลาเกิดเหตุขัดข้องพอดี ขณะที่กระทรวงต่างประเทศจีนปฏิเสธความเกี่ยวข้อง
เคเบิลใต้น้ำ เชื่อมเกาะกอตแลนด์ ของสวีเดน กับลิทัวเนีย ขาดเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน วันต่อมา เคเบิลสื่อสารเชื่อมกรุงเฮลซิงกิ กับเมืองรอสต็อกของเยอรมนี ขาดอีกเช่นกัน ในบริเวณทางใต้ของเกาะ ออลันด์ ห่างจากกรุงเฮลซิงกิ ประมาณ 700 กิโลเมตร
นายกรัฐมนตรีคริสเตอร์สัน กล่าวว่า มีความสำคัญยิ่งที่จะต้องไขความกระจ่างว่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่ และหวังว่าจีนจะทำตามคำร้องขอที่สวีเดนส่งไป ขณะย้ำอีกครั้งว่า สวีเดนต้องการย้ายเรือต้องสงสัยเข้ามาในน่านน้ำสวีเดน เพื่อให้เอื้อต่อการตรวจสอบ
วันเดียวกัน วอลล์ สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า ทีมสอบสวนของยุโรป เชื่อว่า เรือพาณิชย์จีน เจตนาลากสมอ ทำความเสียหายแก่สายเคเบิลสื่อสารในทะเลบอลติก แต่แหล่งข่าวจากหน่วยงานบังคับใข้กฎหมายและข่าวกรองตะวันตกเชื่อว่า พวกเขาไม่คิดว่ารัฐบาลจีนมีส่วนรู้เห็น การสอบสวนกำลังมุ่งไปที่ว่า เป็นฝ่ายข่าวของรัสเซียที่ชักชวนกัปตันเรือจีนให้กระทำการดังกล่าว
สัปดาห์ที่ผ่านมา เรือสวีเดน เยอรมนี และสวีเดน ได้เข้าล้อมเรือ อี้ เผิง-3 ความยาว 225 เมตร ขณะที่ บริษัท หนิงโป อี้เผิง ชิปปิ้ง บริษัทเจ้าของเรือ ให้ความร่วมมือสอบสวนเป็นอย่างดี
ปัจจุบัน เรืออี้เผิง 3 ทอดสมออยู่ในน่านน้ำสากล ที่ช่องแคบ คัตเตกัต ระหว่างสวีเดนกับเดนมาร์กมาตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน ทางการสวีเดนกับเยอรมนี กำลังเจรจากับเจ้าของ ขอขึ้นไปบนเรือและสอบถามลูกเรือ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องขออนุญาตตามกฎหมายทะเลระหว่างประเทศ
พนักงานสอบสวนของยุโรป เชื่อว่า เรือลำนี้ ลากสมอบนพื้นทะเลบอลติกเป็นระยะทางกว่า 100 ไมล์ หรือ 160 กิโลเมตร ช่วงวันที่ 17-18 พฤศจิกายน จากการตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมและข้อมูลแหล่งอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่า เรือสินค้าติดธงจีน เคลื่อนที่ช้ากว่าปกติในระหว่างที่สมอเรือถ่วงไว้
เรือตัดเคเบิลสื่อสารขาดสองเส้น เส้นหนึ่งเชื่อมระหว่างลิทัวเนียกับสวีเดน อีกเส้นเชื่อมฟินแลนด์กับเยอรมนี หลังจากเคเบิลเส้นที่สองถูกตัด เรือแล่นแบบซิกแซก ยกสมอขึ้นแล้วเดินทางต่อไป โดยที่ในระหว่างเกิดเหตุต้องสงสัย ระบบรับส่งสัญญาณ หรือทรานสปอนเดอร์ของเรือลำนี้ถูกปิดไว้
พนักงานสอบสวนที่ให้ข่าวกับวอลล์ สตรีท เจอร์นัล กล่าวว่า ไม่น่าเป็นไปได้ ที่กัปตันเรือจะไม่สังเกตว่าเรือหย่อนสมอ ลากสมอ สูญเสียความเร็วเป็นเวลาหลายชั่วโมง และตัดสายเคเบิลระหว่างเดินทาง
รายงานระบุว่า เรือ อี้เผิง 3 เคยแล่นอยู่แต่ในน่านน้ำของจีน นับจากธันวาคม 2562 จนถึงต้นมีนาคม 2567 ก่อนจะมาเริ่มบรรทุกถ่านหินและสินค้าต่าง ๆ ของรัสเซีย ขณะเกิดเหตุ เรือกำลังบรรทุกปุ๋ยจากรัสเซีย