“สื่อพม่า” ตีข่าวถล่มประมง-จับเชลย คอมเมนต์เดือด! แรงงานในไทยซวยแน่

“มาริษ” เรียกทูตพม่าถกด่วน 2 ธ.ค. จี้ปล่อย 31 ลูกเรือ เฉ่งเพื่อนบ้านทำเกินกว่าเหตุ ด้าน “สื่อพม่า” ตีข่าวกองทัพถล่มประมง-จับเชลย ฟันธง! แรงงานในไทยซวยแน่

“สื่อพม่า” ตีข่าวถล่มประมง-จับเชลย คอมเมนต์เดือด! แรงงานในไทยซวยแน่ – Top News รายงาน

 

“อันดามัน” เดือดดาลเลยทีเดียว เมื่อทหารเมียนมายั่วยุเปิดศึกกลางทะเล สั่งเรือรบยิงถล่มเรือประมงไทย ขณะออก ล้อม อวน หาปลาแถวเกาะพยาม จ.ระนอง เป็นเหตุให้ลูกเรือเสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน มิหนำซ้ำยังลากเรือประมง 1 ลำ พร้อมจับลูกเรือ 31 ชีวิต ไปกักขังในฝั่งเกาะสอง ด้านทหารเรือแจ้งกลาโหมด่วน ส่งผู้ช่วยทูตทหารขอรับตัวประกัน 31 ชีวิตกลับ ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชชยชัย บิ๊กกลาโหม ตอบอ้อมแอ้ม เค้าแค่ยิงขู่เตือน ไม่ได้ต้องการทำร้าย มั่นใจไม่ลุกลามเป็นความบาดหมางระหว่างประเทศ ด้าน “ผบ.ทร.” ไม่นิ่งนอนใจ รอถามทางการเมียนมาทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ย้ำหากรุกล้ำน่านน้ำไทยจริง ตอบโต้กลับหนักแน่

จากกรณีที่เกิดขึ้น คิท ทิด มีเดีย สื่อของเมียนมา ได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นเช่นกัน โดยรายละเอียดของข่าวส่วนใหญ่ มาจากสำนักข่าวของไทย อย่างไรก็ตาม ในโพสต์ข่าวดังกล่าวทางช่องทาง Facebook ได้มีชาวเมียนมาจำนวนหลายร้อยคน ได้เข้ามาแสดงความเห็น โดยมีจำนวนไม่น้อย ที่กังวลว่าการกระทำของกองทัพเมียนมา อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตของแรงงานเมียนมาที่เข้ามาหางานทำในไทย

คนเมียนมารายหนึ่งบอกว่า “เป็นเรื่องน่าเจ็บใจ ที่กองทัพเมียนมา จงใจสร้างปัญหาด้วยการเข้ามาในน่านน้ำไทย สิ่งที่คุณคิดได้กลายเป็นความจริงแล้ว เป้าหมายคือการทำให้คนเมียนมาในไทย กลับบ้านด้วยความเกลียดชัง เมื่อกองทัพเมียนมาและกองทัพไทยต่อสู้เพื่อดินแดน ไทยจะตอบโต้ ในขณะเดียวกัน คนเมียนมาในไทย จะกลายเป็นเบี้ยและจะถูกเกลียดชัง และถูกกดขี่มากขึ้น” , อีกความเห็นหนึ่งบอกว่า พวกกองทัพเมียนมากำลังวางแผนที่จะส่งพลเมืองของเรา กลับไปรับใช้ในกองทัพของเขา” , ขณะที่อีกคนบอกว่า “ผมมองว่า เป็นความพยายามจงใจสร้างความขัดแย้งทางชาติพันธุ์ เพื่อให้ชาวเมียนมาที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ต้องทนทุกข์ทรมาน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับชาวไทยมานานหลายปีแล้ว เรามารอดูกันต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น” , อีกคนบกว่า “เราชาวเมียนมาในไทยจะต้องเดือดร้อน  ขณะที่บางคนถึงขั้นสวดภาวนาว่า “ขอให้ชาวเมียนมาในไทยอยู่เย็นเป็นสุข ขอให้ชาวเมียนมาในไทย ระมัดระวังในการเดินทาง กินอยู่ ใช้ชีวิต ขอให้ปลอดภัย”

สื่อพม่า

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุด นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย หรือ อาจารย์อุ๋ย นักวิชาการด้านกฎหมาย ซึ่งเป็นอดีตผู้สมัคร สส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีดังกล่าว ว่า กฎบัตรสหประชาชาติ มาตรา 51 ให้สิทธิ์แก่รัฐสมาชิกในการใช้กำลังป้องกันตนเองโดยใช้อาวุธ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีการรุกล้ำน่านน้ำหรือไม่ ด้วยหลักจารีตประเพณี และคำพิพากษาของศาลระหว่างประเทศ ว่าด้วยกฎหมายทะเล ระบุว่า การใช้กำลังอาวุธด้วยการยิงเข้าใส่เรือประมง จนเกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตของลูกเรือ ถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ และละเมิดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ ภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ รัฐทุกรัฐ จะต้องหลีกเลี่ยงการใช้กำลังอาวุธให้มากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ เมื่อทำการเข้าจับกุมเรือ แม้ว่าจะเป็นเรือที่ทำผิดกฎหมายก็ตาม เพราะการใช้กำลังอาวุธ จะทำให้มีความเสี่ยงอย่างยิ่ง ที่จะทำให้คนของชาติอื่นต้องบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และจะทำให้เกิดความบาดหมางต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศโดยไม่จำเป็น ซึ่งวิธีที่ยึดถือปฏิบัติกันมาในทางระหว่างประเทศ เมื่อพบเรือต่างชาติที่ต้องสงสัย คือการเตือนด้วยเสียง หรืออาณัติสัญญาณ ในรูปแบบที่เห็นได้ชัด ให้เรือต้องสงสัยนั้นหยุด และหากเรือต้องสงสัยนั้นไม่ตอบสนอง หรือไม่หยุด เจ้าหน้าที่จึงสามารถเข้าขึ้นเรือ และใช้กำลังเข้าควบคุมความสงบเรียบร้อยได้ หรือหากเรือต้องสงสัยนั้น มีการใช้กำลังอาวุธยิงเข้าใส่ เจ้าหน้าที่จึงสามารถใช้อาวุธยิงตอบโต้ได้

หากปรากฎข้อเท็จจริงว่า เจ้าหน้าที่เมียนมายิงเข้าใส่เรือประมงไทย โดยไม่มีการเตือนหรือแจ้งล่วงหน้าให้หยุดเรือ จึงเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลไทยต้องเรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมา เยียวยาความเสียหาย และปล่อยตัวลูกเรือที่ถูกจับโดยเร็ว มิเช่นนั้นจะต้องดำเนินมาตรการตอบโต้ เช่น ส่งทูตกลับประเทศ ปิดน่านน้ำ ปิดชายแดน จำกัดการนำเข้าสินค้า บอยคอตสินค้า ตัดความช่วยเหลือต่างๆ กับประเทศเมียนมา เป็นต้น ซึ่งเป็นการกระทำที่ทำได้ ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ เพื่อผดุงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีของประเทศไทย และเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับคนไทยที่ประสบเหตุ อย่างเต็มที่ ด้วยความปรารถนาดี

 

ล่าสุด นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ในส่วนกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีหนังสือแสดงความกังวลเรื่องนี้ด้วย และวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคมนี้ จะเชิญทูตเมียนมา มาที่กระทรวง และจะย้ำขอให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ถูกต้อง และปล่อยตัว 4 คนไทยที่ถูกควบคุมตัว ส่วนการคุยกับทูตเมียนมา แล้วจะมีความคืบหน้าเลยหรือไม่นั้น สิ่งที่ตนจะคุยกับท่านทูต เป็นการย้ำว่าเขาต้องรับผิดชอบ เพราะมองว่าเขาทำเกินกว่าเหตุ การจะบอกว่ารุกล้ำหรือไม่นั้น มันมีขั้นตอนอยู่ ส่วนการช่วยเหลือตัวคนไทยช่วยแน่นอน เราพูดตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และวันที่ 2 ธันวาคม จะพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าวอีก ดังนั้นเราดำเนินการอยู่ตลอดเวลา และร่วมทำงานอย่างจริงจัง ทั้งทางฝ่ายทหาร และกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยัน 4 คนไทยปลอดภัยแน่นอน และขณะนี้ถือว่ามีสัญญาณบวก เพราะประเทศไทยและเมียนมา มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ส่วนในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ จะได้รับคำตอบว่าปล่อยตัวเลยหรือไม่ ต้องพูดคุยกันหลายด้าน

อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาดูการเจรจาในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ ว่าทางการเมียนมาจะปล่อยตัวลูกเรือไทยทั้ง 31 คนหรือไม่

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กกต." ไม่เลื่อนเลือก "ส.อบจ.-นายก อบจ." ยังคงกำหนดให้เลือกตั้ง 1 ก.พ.2568 ยันเหมาะสมแล้ว
"พิพัฒน์" สั่งลดสมทบเงินประกันตน เตรียมแผนช่วยแรงงาน ระดมแจกถุงยังชีพช่วยน้ำท่วมใต้
ควาญช้าง 33 เชือก วอน "ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ - ผู้จัด" จ่ายค่าตัวช้าง 6 แสนบาท
"บิ๊กเต่า" เตรียมแจ้งข้อหา "สามารถ" เพิ่มอีกคดี หลังพบเส้นเงิน บังคับขู่เข็ญลงทุนให้จ่ายกว่า 5 แสนบาท
จับตา "ส.ป.ก.สระบุรี" ลุยสอบบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ถือครองที่ดิน 700 ไร่ ผิดกม.
ช่วย 4 คนไทย พ้นขุมนรก หลังถูกหลอกทำงานแก๊งคอลฯ
รมว.กต.เรียกทูตเมียนมาพบ จี้ปล่อยตัว 4 ลูกเรือคนไทย ลั่นรัฐบาลขอให้คำมั่น จะดำเนินการเร็วที่สุด
"บิ๊กเต่า" ออกหมายเรียก "ฟิล์ม รัฐภูมิ" รับทราบข้อหา พยายามกรรโชกทรัพย์ ขีดเส้นถึง 6 ธ.ค.นี้
โปรดเกล้าฯ คืนสมณศักดิ์ พระราชอุปเสณาภรณ์-พระราชกิจจาภรณ์ วัดสระเกศฯ หลังพ้นมลทินคดีทุจริต
"ทนายความ" เผย ศาลไม่ให้ประกันตัว "สามารถ" ชี้ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม เคยมีพฤติกรรมหลบหนี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น