โมเช่ ยาลอน อดีตรัฐมนตรีกลาโหม และอดีตเสนาธิการกองทัพอิสราเอล หรือ IDF กล่าวว่า รัฐบาลอิสราเอลภายใต้การขับเคลื่อนของรัฐมนตรีขวาจัด กำลังพาประเทศสู่ความหายนะ ด้วยการยึดครอง การผนวกดินแดนและกวาดล้างชาติพันธุ์ (ethnic cleansing) ในฉนวนกาซ่า และชี้ว่ากองทัพได้กระทำการกวาดล้างชาวอาหรับในหลายพื้นที่ของกาซ่าแล้ว
ยาลอน เคยเป็นสมาชิกพรรคลิคุดมานานหลายปี เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมในรัฐบาลเบนจามิน เนทันยาฮู ช่วงปี 2556-2559 แต่ในระยะหลัง กลายเป็นนักวิจารณ์เนทันยาฮูและนโยบายรัฐบาลแบบดุเดือด
เขาแสดงความเห็นเรื่องนี้กับ เดโมแครต ทีวี โดยกล่าวโจมตีฝ่ายขวาจัด ที่พยายามผลักดันแนวคิดที่ใช้คำว่า “การโยกย้ายถ่ายโอนประชากร” และ “การอพยพโดยสมัครใจ” ของชาวปาเลสไตน์จากกาซ่า และจัดตั้งนิคมชาวยิวในดินแดนของพวกเขาแทน แม้ว่าเนทันยาฮู พูดหลายครั้งว่า การทำเช่นนั้นไม่อยู่ในเป้าหมายของสงคราม และไม่อยู่ในวาระงานของรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวที่สัมภาษณ์ ถามย้ำอีกครั้ง เพราะประหลาดใจกับการที่เขาใช้คำว่า “กวาดล้างชาติพันธุ์ในกาซ่า” ยาลอน กล่าวว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในกาซ่า คือเวลานี้ไม่มีเมือง เบอิต ลาเฮีย ไม่มี เบอิต ฮานูน ในกาซ่าอีกแล้ว ขณะที่ปฏิบัติการทางทหารกำลังดำเนินอยู่ในจาบาเลีย เพื่อเคลียร์พื้นที่ของชาวอาหรับ
กีเดียน ซาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล ตำหนิยาลอน ว่าแสดงความเห็นอย่างไร้ความผิดชอบและไม่ถูกต้อง ให้ร้ายประเทศโดยไม่มีมูล และเรียกร้องให้ถอนคำพูด แต่ยาลอน บอกกับ KAN บรรษัทกระจายเสียงอิสราเอล ในวันอาทิตย์ (1 ธ.ค.)ว่า เขายืนยันในคำพูดเดิมว่า อิสราเอลกำลังกวาดล้างชาติพันธุ์ในกาซ่า ในนามของคนที่เคยทำหน้าที่ในกาซ่าเหนือ จำเป็นที่เขาต้องออกมาเตือนว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นที่นั่น และว่า ไม่เคยมีรัฐประชาธิปไตยใด ที่ต้องเผชิญกับการไต่สวนที่ศาลอาญาระหว่างประเทศมาก่อน
อิสราเอลปฏิเสธเรื่องกวาดล้างชาติพันธุ์ ยืนยันว่า ปฏิบัติการเข้มข้นทางเหนือของกาซ่าหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นการตอบโต้หลังจากฮามาสกลับมารวมตัวใหม่ แต่อีกด้าน นักการเมืองขวาจัดบางคนก็ไม่เคยปิดบังว่า พอใจที่เห็นประชากรในกาซ่าลดลง และหวังสร้างนิคมชาวยิว ขณะที่นักวิจารณ์กล่าวหาเนทันยาฮู ยื้อการทำสงคราม และไม่ยอมหาทางออกทางการทูต ส่วนหนึ่งเพราะเจอกดดันจากกนักการเมืองขวาจัดที่ขู่จะล้มรัฐบาลหากยุติสงครามในเวลานี้
แม้อิสราเอลอ้างว่า คำสั่งอพยพ มีความชอบธรรม เพื่อความปลอดภัยของชาวปาเลสไตน์เอง และเพื่อเอื้อต่อปฏิบัติการทหาร แต่ ฮิวแมน ไรทส์ วอทช์ เผยแพร่รายงานเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนว่า ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในกาซ่า เข้าข่าย “อาชญากรรมสงครามจากการบังคับอพยพ” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการในฉนวนกาซาตอนเหนือ คำกล่าวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่รับผิดชอบในการบังคับบัญชา แสดงให้เห็นว่า การบังคับให้อพยพ เป็นการกระทำโดยเจตนา ถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายของรัฐอิสราเอล ด้วยเหตุนี้จึงถือเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ นอกจากนี้ พฤติกรรมของอิสราเอลยังเข้านิยาม การกวาดล้างชาติพันธุ์ ในพื้นที่ที่ชาวปาเลสไตน์จะไม่สามารถกลับเข้าไปได้อีก
สหประชาชาติระบุว่า นับจากสงครามกาซ่าเปิดฉากในเดือนตุลาคม 2566 มีชาวปาเลสไตน์ต้องอพยพออกจากที่อยู่เดิม 1 ล้าน 9 แสนคน ขณะที่ตัวเลขประชากรในกาซ่าอย่างเป็นทางการ ก่อน 7 ตุลาคม 2566 อยู่ที่ 2 ล้าน 4 แสนคน ปัจจุบัน ชาวกาซ่าส่วนใหญ่ พำนักอยู่ในเขตมนุษยธรรม ที่อิสราเอลกำหนด โดยตั้งอยู่ในเขต อัล มาวาซี ชายฝั่งทางใต้สุดของกาซ่า พื้นที่ทางตะวันตกของเมืองข่าน ยูนิส และ เดอีร์ อัล-บาเละห์ ทางตอนกลาง ขนาดของพื้นที่ปลอดภัยเปลี่ยนไปมาหลายครั้ง ตามปฏิบัติการกวาดล้างฮามาส
