อิรวดีรายงานในวันนี้ (อังคารที่ 3 ธค.) ว่าพลตรีซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมาออกมายืนยันกับสื่อเมียนมาเมื่อวานนี้ (จันทร์ที่ 2 ธค.) ถึงเหตุการณ์ที่เรือทหารเมียนมากราดยิงใส่ฝูงเรือประมงไทยจำนวน 15 ลำขณะออกเรือหาปลาที่นอกชายฝั่งจังหวัดระนอง โดยจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากเกาะพยามของไทยไปราวๆ 22 กิโมเมตร
ซอมินตุนกล่าวว่าเรดาร์เรือยามฝั่งของกองทัพเมียนมาได้ตรวจพบความเคลื่อนไหวผิดปกติใกล้กับจังหวัดเกาะสองในเวลา 02.40 นาฬิกาของวันเสาร์ พอเข้าใกล้ถึงรู้ว่าเป็นฝูงเรือประมง เรือทหารเมียนมาได้ส่งสัญญานให้เรือประมงหยุดวิ่งเพื่อขอเข้าตรวจค้น แต่เรือประมงกลับแล่นหนี ทำให้เรือทหารเมียนมาแล่นไล่ตามและเข้าจับกุม ซอมินตุนกล่าวยืนยันว่าเรือของเมียนมาได้ปฏิบัติตามกฎหมายและขัอบังคับเนื่องจากฝูงเรือประมงไทยออกหาปลาในน่านน้ำเมียนมา
ซอมินตุนยังกล่าวด้วยว่ากระทรวงกลาโหมเมียนมากำลังสอบสวนเพิ่มเติมหลังจากตรวจพบ “สิ่งของแสดงสัญญลักษณ์และเกี่ยวข้องกับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา” ภายในเรือประมงไทยที่ยึดไปไว้ที่เกาะย่านเชือกของเมียนมา
เหตุเผชิญหน้าครั้งนี้ทำให้ลูกเรือประมงไทยจมน้ำเสียชีวิต 1 คนหลังโดดหนีลงทะเล และบาดเจ็บ 2 คนจากกระสุนปืน ขณะที่ลูกเรือชาวไทย 4 คนและแรงงานเมียนมาอีก 27 คนก็ถูกทหารจับตัวไป
หลังเกิดเหตุ นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีกลาโหมไทยประท้วงฝั่งเมียนมาว่ากระทำการเกิดกว่าเหตุ กรณีสาดกระสุนใส่ ขณะที่โฆษกกระทรวงกลาโหมไทยยังพูดไม่ชัดเจนเกี่ยวกับระยะทางที่เรือไทยละเมิดเข้าไปในน่านน้ำเมียนมา โดยตอนแรกบอกว่าละเมิดเข้าไป 6-9 กิโลเมตร แต่ภายหลังเปลี่ยนเป็น 2-3 กิโลเมตร
นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตรบอกว่ารัฐบาลไทยไม่เห็นด้วยที่เมียนมาใช้ความรุนแรง และบอกว่ารอฟังผลสอบสวน ขณะที่กะทรวงต่างประเทศไทยเรียกเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำกรุงเทพเข้าพบเพื่อพูดคุยในเรื่องนี้ ขณะที่นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีต่างประเทศไทยได้เรียกร้องให้นายตานส่วย รัฐมนตรีต่างประเทศเมียมนาสอบสวนเหตุการณ์อย่างละเอียด และขอให้ปล่อยตัวลูกเรือไทย